วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

เจ้าของคอกม้า 2014 : ตอน ตามล่าหา ร . 10 ( King Rama 10 )


เจ้าของคอกม้า 2014
: ตอน ตามล่าหา ร . 10

รับฟังพร้อมเพลงประกอบ :





ภูมิพลเข้ารักษาตัว ที่ศิริราช 20 กค. 2549
เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อก่อนปี 2552 เมื่อครั้งที่ลุงสมชายยังพอที่จะเดินเองได้ แต่ต่อมาลุงเริ่มมีอาการเจ็บเส้นประสาทสันหลัง ที่เป็นมาตั้งแต่สมัยที่ลุงเมื่อหลบคดียิงพี่ชายไปอยู่ที่วิลล่าพัฒนาในเมืองสวิสแล้วไปประสบอุบ้ติเหตุขับรถซิ่งชนรถบรรทุกจนมีบาดแผลฉกรรจ์ที่หลังแทบเอาชีวิตไม่รอดแถมตาข้างขวาบอดสนิท ต่อมายังไปเจออุบัติเหตุเหตุทางน้ำขณะที่ลงซ้อมแข่งเรือใบ ที่หาดเตยงามแถวสัตหีบ เพราะต้องการโชว์ว่าตนเป็นยอดนักกีฬาน้องๆแชมป์เหรียญทองโอลิมปิคในกีฬาแหลมทอง เมื่อหลายสิบปีก่อน ตอนนั้นหมอต้องการให้ลุงผ่าตัดสันหลังมาตั้งแต่ต้น แต่ทีมงานของลุงไม่ยอมให้ลุงผ่าตัด เลยทิ้งให้เป็นอาการเรื้อรังมาจนย่างเข้าวัยชรา แล้วก็ต้องมาทำการผ่าตัดหลังในวัยร่วม 80 ปี เพราะอาการของลุงหนักมาก แทบจะเดินไม่ได้ ทีมงานจึงต้องตัดสินใจยอมให้ลุงผ่าตัดเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว


ภูมิพลในวัย 81 ปี สุขภาพเริ่มทรุดโทรม ตั้งแต่ 2551
หมอที่ทำการรักษา เป็นหมออเมริกัน ชื่อ ริชาร์ด ดีมาเตอร์ ทำงานอยู่ที่มหาลัยแคลิฟอร์เนีย เป็นหมอที่ขึ้นชื่อด้านการผ่าตัดหลังเป็นมืออันดับต้นๆ ของโลก หลังผ่าตัดเสร็จ ลุงก็พอจะเดินได้อีกครั้ง แต่อาการก็ยังไม่ดีมากนัก หมอได้บอกเป็นนัยๆว่า เสียใจที่แกมาช้าไปหน่อย คงช่วยอะไรไม่ได้มากนัก
หลังการผ่าตัดหมอได้ฝังเหล็กเอาไว้ในกระดูกสันหลังของลุง และห้ามกระทบกระเทือนบริเวณหลังเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เหล็กไปกดทับไขสันหลัง ลุงอาจพิการทันที และจะเดินไม่ได้อีกเลยทั้งชีวิต ซึ่งจะทำให้อาการทางสมองแย่ตามไปด้วย

ออกมาดูรถฟอร์มูล่าวัน 17 ธค.2553
ทีมงานของลุงจึงต้องระวังมาก ไม่ให้ลุงเดินทางไปไหนไกลๆ ที่จริงลุงเองก็เดินแทบไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าลุงฝืนเดินด้วยตัวเอง ภาพที่ออกมาคงจะไม่น่าดู แต่ลุงเริ่มมีอาการซึมเศร้า ทีมงานของลุง จึงต้องพยายามจัดงานให้ลุงได้ปรากฏตัวบ่อยๆ เพื่อให้ลุงออกได้ออกมาผ่อนคลายอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่ งานดูดนตรี ล่องเรือ ลอยกระทง เป่าเทียน ไปทุ่งมะขามหย่องเพื่อบวงสรวงศรีสุริโยทัย
นอกจากนี้ลุงยังมีอาการทางหัวใจ ลุงเคยมาผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจ ทำบายพาสหรือทางเบี่ยงเส้นเลือดหัวใจมาแล้วสามเส้นและใส่เพสเมกเกอร์ ( pacemaker ) หรือเครื่องควบคุมการเต้นของหัวใจ  โดยใช้ทีมหมอจากโรงหมอโรคทรวงอก เพราะหัวใจของลุงเต้นไม่เป็นปกติ จะผ่าตัดก็คงจะทำไม่ได้ เพราะลุงโทรมมากแล้ว การฉีดสเต็มเซ็ลล์จะช่วยยืดชีวิตของลุงต่อไปได้อีกสักระยะ

หมอประดิษฐ์ เจริญไทยทวี เสียชีวิต 20กย.2553
มีการเปลี่ยนหมอทีมใหม่ เพราะหัวหน้าหมอทีมเก่าตาย อย่างเป็นปริศนา จากการที่ไม่ยอมฉีดสเต็มเซลล์ให้ลุง  ตอนนี้ลุงต้องฉีดสเต็มเซลล์อาทิตย์ละเข็ม ทุกวันอังคาร และฉีดยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงร่วมไปด้วยในบางครั้ง และทีมงานจะต้องพาลุงออกไปตากแดด มีการระดมการรักษาเพื่อต่อชีวิตให้ลุงทุกรูปแบบโดยไม่ต้องสนใจเรื่องข้อกำหนดทางกฎหมายหรือศีลธรรมใดๆทั้งสิ้น เวลาที่เหลืออยู่ของลุงจะอยู่ได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับการเข้ากันของสเต็มเซลล์เพียงอย่างเดียว

ฉลองวันเกิด 83 ปี 5 ธค. 2553
แม้ว่าลุงจะมีทรัพย์สินมากมาย มหา ศาลมากกว่าเศรษฐี
50 อันดับแรกของไทยเอามากองรวมกัน แต่ก็ไม่สามารถนำมาซื้อชีวิตที่เหลืออยู่ของลุงได้ ลุงเองมีภาวะโรคเรื้อรังอยู่มากมายหลายโรค แถมยังมีนิสัยดื้อรั้น ไม่ยอมหยุดสูบบุหรี่ตามคำแนะนำของหมอที่ดูแล ทั้งๆที่ลุงมีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ และโรคทางสมอง เพราะลุงไม่อาจจะเลิกวิตกกังวลขณะที่รักสินยังอยู่อย่างมีบารมี ทำให้ลุงยังคงเคร่งเครียดกับอนาคตที่ไม่แน่นอนของวงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก ลุงต้องเข้าโครงการรักษาด้วยการฉีดสเต็มเซลลล์อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการนี้ทำการวิจัยอยู่อย่างลับๆที่สถาบันวิจัยจุลาพอง การใช้สเต็มเซลล์อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาโรคพาร์กินสัน และโรคสมองเสื่อมของลุง ได้ผลดีในระยะแรกๆ แต่ต่อมาร่างกายลุงเกิดภาวะต่อต้านสเต็มเซลล์ ทำให้การใช้สเต็มเซลล์ไม่ค่อยได้ผลอีกต่อไปแล้ว ร่างกายของลุงจึงเริ่มแย่ลงเป็นลำดับ อาการทางสมองและการรับรู้ของลุงได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

สภาพสังขารของกษัตริย์เมื่อเป็นผู้ป่วยพิการถาวร
ลุงยังมีอาการความดันในโพรงสมองสูง ทำให้ทรงตัวไม่ได้ จึงต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา และ มีอาการความจำเสื่อมจากโรคสมองเสื่อม ทำให้ลุงจำคนรอบข้างแทบไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะเมื่อมีอาการของโรคกำเริบหนักแม้แต่ลูกเมียลุงก็ยังจำไม่ได้เลย อาจจะเป็นผลมาจากการที่ลุงได้รับสารพิษไซยาไนด์หรือโดนวางยาพิษมาอย่างต่อเนื่อง และอาการสโตรกหรือสมองขาดเลือด ที่ลุงเคยเป็นจนต้องเข้ามารักษาแบบระยะยาวที่โรงหมอสีหราช  จึงต้องมีการเจาะหลังเพื่อที่จะระบายน้ำไขสันหลัง เพื่อให้ความดันในช่องไขสันหลังลดลง

ผ่าตัดวางท่อระบายน้ำจากโพรงสมอง
ทีมงานหมอได้ประชุมกันมากกว่า 6 เดือน ที่วางแผนในการผ่าตัด โดยในตอนแรกคิดจะต่อท่อระบายน้ำในสมองของลุงมาระบายออกที่ท้อง โดยต้องวางยาสลบ แต่ลุงมีอาการทางสมองหนักอยู่แล้ว จึงมีความเสี่ยงมากถ้าจะต้องถูกดมยาสลบ เพราะสมองอาจจะเสียหายมากขึ้น จนไม่กลับมาเหมือนเดิม หรือไม่ตื่นจนกลายเป็นเจ้าชายนินทราไปเลย ทีมหมอจึงเลือกที่จะต่อท่อที่ไขสันหลังมาระบายลงในท้องแทนที่จะระบายจากโพรงสมองโดยตรง  การผ่าตัดคราวนี้จึงไม่ต้องดมยาสบ ทีมหมอต้องเดินทางไปศึกษาดูงานการผ่าตัดที่ญี่ปุ่น  แต่การผ่าตัด ไม่ได้ผลอย่างที่คิด การระบายน้ำจากสันหลังยังทำได้ไม่ดีนัก เพราะลุงเป็นหลายโรค และยังสูบบุหรี่จัดอย่างต่อเนื่อง โรคสมองเสื่อมก็เป็นโรคปกติของคนในวัยชราที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้อยู่แล้ว มีเพียงแต่การรักษาเพื่อยื้อเวลาไม่ให้เสียชีวิตแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง  ดังนั้นทีมงานโฆษณาของลุงจึงมักจะต้องเอาภาพและวีดีโอเก่าๆของลุงออกมาฉายทางทีวี เหมือนอย่างกับว่าลุงไม่ได้เป็นอะไรมากนัก

การระบายน้ำจากช่องไขสันหลัง
หมอได้ตรวจพบภายหลังว่าสายที่ต่อท่อจากไขสันหลังมาระบายที่ท้องทำท่าว่าจะตีบตันอีกแล้ว การผ่าตัดรอบใหม่ก็คงจะเสี่ยงเกินไป และถ้ายังไม่สามารถลดความดันในโพรงสมองของลุงได้ สมองของลุงจะได้รับความเสียหายมากขึ้นไปเรื่อยๆ และไม่มีทางรักษาให้สมองฟื้นคืนขึ้นมาได้ ทางครอบครัวของลุงจึงต้องหันมาพึ่งทางไสยศาสตร์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ โดยจัดให้มีการสวดมนต์ ทั้ง 3 ศาสนา ในเวลาเที่ยงคืน เพื่ออุทิศผลบุญให้ลุง โดยเฉพาะวันพระใหญ่ จะจัดงานพิธีให้ลุงมากขึ้นไปอีก หวังสร้างปาฏิหาริย์ให้ลุงมีอาการกลับมาดีเหมือนเดิม แม้ว่าลุงยังไม่ถึงขั้นเป็นอัมพาต แต่การทำงานของ
สมรรถภาพสมองลดลงเป็นอย่างมาก

พระพรหมวชิรญาณ วัดยานนาวา
เป็นที่รู้กันดีว่าทั้งลุงและครอบครัวเชื่อไสยศาสตร์เป็นอย่างมาก แต่พระพรวชิรยนเจ้าอาวาสวัดยานนาเวศที่ครอบครัวลุงนับถือมากและชอบให้ดูดวงชะตาอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะเสี่ยอูจะเลื่อมใสหลวงพ่อองค์นี้เป็นพิเศษ หลังจากที่ท่านได้เพ่งกสิณดูแล้ว ท่านได้พูดกับคนใกล้ชิดว่า ลุงได้หมดสิ้นบุญแล้ว แต่ตอนนี้ลุงต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อที่จะชำระสะสางในสิ่งที่ลุงพึงจะได้รับ หรือถ้าพูดตรงๆก็คือ ลุงต้องอยู่เพื่อชดใช้กรรมที่ได้เคยทำไว้
แม้แต่เมื่อตอนที่กัญญาณีพี่สาวของลุงป่วยหนักเป็นมะเร็งที่เต้านม กระจายไปสมอง ทีมงานก็ยังปกปิดข้อเท็จจริง ไม่ยอมให้เธอจากไปอย่างสงบ โดยพยายามดึงไปให้พ้นปีมหามงคล
2550 ให้พ้นปีฉลองอายุ 80 ปีของลุงไปก่อน ทำให้กัญญาณีต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป แล้วจึงมาประกาศเสียชีวิตในวันที่ 2 มกราคม 2551


สังฆราชญาณสังวรสิ้นพระชนม์ 24 ตค. 2556
สังฆราชยานสังเวชก็เช่นเดียวกัน คือต้องทนทุกข์ทรมานลากสังขารให้มีอายุถึงร้อยปี จึงยอมให้ลาตายไปได้เพราะเชื่อว่าจะทำให้ลุงสมชายมีอายุเลยร้อยปีเหมือนกัน
ลุงได้ทำ blood ozone คือใช้โอโซนฟอกเลือดและฉีดสเต็มเซลล์  แต่ลุงกลับมีอาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ป้าก็เอาแต่ไปเที่ยวที่บ้านไกลกังวาน หัวหิน เพื่อหาความสำราญกับคู่ควงคนใหม่ ที่เป็นทหารบกตามสเป็คของป้า เป็นพ่อหม้ายในวัยสี่สิบต้นๆ จากการชักนำของนางจรุงหิดคนรับใช้ใกล้ชิด  เรื่องนี้ทุกคนต้องคอยช่วยกันปิดข่าวไม่ให้ลุงรู้เด็ดขาดว่าป้าหายไปไหน ไม่อย่างนั้นลุงอาจจะอาเจียนเป็นโลหิตถึงแก่ชีวิตได้ง่ายๆ

จุฬาภรณ์พบ ปธน.ชิมอนเปเรสที่อิสราเอล 17 ตค. 2555
หญิงเล็กจุลาพองรับหน้าที่เดินทางไปอิสราเอล และยุโรป เพื่อติดต่อผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงด้านการฝังชิพเข้าไปในสมอง เพื่อรักษาอาการสั่นหรือโรคพาร์กินสันที่ลุงกำลังป่วยอย่างหนัก


การฝังชิพกระตุ้นสมอง (Brain Stimulation)

จุลาพอง กลับมาพร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญทำการการฝังชิพรักษาอาการสั่นของลุงและได้มีการฝังชิพเพิ่มเพื่อควบคุมการทำงานสมองของลุง เพื่อให้ลุงสามารถควบคุมสมองได้เองซึ่งนับเป็นเรื่องที่ใหม่มาก และยังอยู่ในขั้นของการค้นคว้าทดลอง โดยจะมีรีโมทควบคุมอาการของโรคพาร์กินสัน มีการฝังตัวคอนโทรลหรือตัวควบคุม เอาไว้ที่หน้าอกด้านขวาของลุง รีโมทจะทำหน้าที่เปิด-ปิดวงจรกระตุ้นสัญญาณรักษาโรคพาร์กินสัน ทำให้จุลาพองมั่นใจมากถึงกับออกแถลงข่าวว่าลุงกำลังจะเดินได้เป็นปกติภายในเวลาอีกไม่นานนัก

กษัตริย์ภูมิพลคงต้องนั่งรถเข็นตลอดไป
แต่หญิงเล็กคาดการณ์ผิดถนัดเพราะลุงไม่ได้แค่เป็นโรคพาร์กินสันอย่างเดียว แต่ลุงยังมีโรคอัลไซเมอร์และโรคสมองขาดเลือดร่วมอีกด้วย แม้ว่าลุงจะมีอาการสั่นลดลง แต่ความคิด พฤติกรรมของลุงเริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งอาจเป็นผลจากโรคทางสมองของลุง หรือเป็นผลจากการทดลองรักษาแบบใหม่ๆ ขณะที่ลุงก็ยังคงเครียดกับเรื่องการเมืองที่พวกของลุงยังไม่อาจกำจัดพวกของรักสินได้อย่างเด็ดขาดจนลุงต้องสูบบุหรี่หนักเหมือนเดิม



ถึงไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต


วชีราลงกรณ์เป็นมกุฏราชกุมารตั้งแต่ 28ธค.2515
การรักษาที่ยืดเยื้อต่อไปเรื่อยๆทั้งๆที่ลุงหมดสภาพไปแล้ว มันทำให้ป้ากับหญิงเล็กกลายเป็นผู้คุมอำนาจหรือผู้สำเร็จราชการไปโดยปริยาย  เรื่องนี้ทำให้เสี่ยอูซึ่งเป็นทายาทลำดับแรกเริ่มหมดความหมายลงไปเรื่อยๆ เพราะตราบใดที่ลุงยังไม่สิ้นลมและยังไม่ยอมลงจากตำแหน่ง ตราบนั้นเสี่ยอูก็เป็นได้แค่ทายาทที่มีอายุมากที่สุดในโลกเท่านั้นเอง ช่วงที่ป้าหลบไปอยู่กับลิ้มที่หัวหิน พอป้ากลับเข้ามาหาลุง ป้าสั่งให้ทีมงานที่ไม่ใช่พวกของป้ากลับไปให้หมด พอเสี่ยได้รับรายงานก็สั่งการให้หน่วยรบของตนบุกตรงเข้าโรงหมอสีหราชทันทีเพื่อชิงพื้นที่กลับคืนเหมือนกัน

เครื่องกระตุ้นสมองชนิดฝังลึก
ทีมหมอด้านสมองสมองได้วางแผนการรักษาไว้ว่า ถ้าลุงยังเดินไม่ได้ ก็อาจจะต้องฝังชิพในสมองเพิ่มเข้าไปอีกตัว ที่เรียกว่า
deep brain stimulation หรือเครื่องกระตุ้นสมองแบบฝังลึกเพื่อรักษาโรคอัลไซเมอร์ และโรคสโตรกของลุง ในกรณีนี้ หมอได้เตือนให้ลุงและคนใกล้ตัวห้ามใช้โทรศัพท์มือถือในบริเวณใกล้เคียง เพราะสัญญาณโทรศัพท์ อาจจะไปรบกวน ไมโครชิพ และ เครื่องกระตุ้นการเต้น
หัวใจของลุง

หมอประดิษฐ์ ปัญจวีณิน
แต่ลุงก็ยังคงสูบไปบ์เหมือนเดิม จนหมอประดิษฐ์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจที่คอยเข็นลุงออกทีวี ไม่อยากเตือนลุงอีกต่อไปแล้ว เพราะลุงยังเป็นห่วงและกังวลที่ประชาชนหันไปนิยมรักสินมากขึ้นเรื่อยๆ  ลุงเป็นคนที่แพ้ไม่เป็น และอาจเป็นเพราะลุงมีปมด้อยตั้งแต่เด็กที่ต้องถูกพ่อเลี้ยงชาวกรีซทุบตีเป็นประจำ ทำให้ลุงเป็นคนที่เก็บกด ไม่มีชีวิตชีวา และลุงก็จะดูด้อยลงเป็นอย่างมากเมื่อลุงอยู่กับอานานที่เป็นประธานใหญ่คนที่แล้ว
นอกจากนี้ลุงยังเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันถึง 3 เส้น และได้ผ่าตัดทำบายพาสไปแล้ว และยังมีอาการโรคช่องกระดูกไขสันหลังตีบกดทับเส้นประสาท ในส่วนของการฝังชิพรักษาโรคพาร์กินสันของลุงก็ยังไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะอาการกลับรุนแรงขึ้น
หมอนิพนธ์ พวงวรินทร์
หมอนิพนธ์ผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดในสมองได้ใช้วิธีรักษาแบบใหม่ด้วยการการนำเซลล์จากสมองออกไปเพาะเลี้ยงในห้องทดลองเพื่อเพิ่มเซลล์สมอง และนำกลับกลับมาฉีดเข้าไปในสมองของลุง เพื่อให้ลุงมีอาการดีขึ้น ทั้งยังให้สภากาชาดประกาศเชิญชวนให้บริจาคสเต็มเซลล์ถวายอุทิศส่วนกุศลให้ลุง เพื่อคัดเลือกเอาสเต็มเซลล์ที่นำไปใช้กับลุงได้
แต่ก็ยังเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง เพราะลุงอายุมาก และมีภาวะสมองฝ่อ ทำให้เลือดออกในสมองได้ง่าย เป็นภาวะค่อนข้างอันตราย ประกอบกับการที่ลุงมีโรคทางสมองอยู่แล้ว ยิ่งทำให้สมองเสียหายเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

เปรมนำองคมนตรีอวยพรวันเกิดพระเทพ  2 เมย. 2553
ตอนแรกลุงมีอาการถึงขั้นโคม่า หมอต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แต่เกรงว่าจะดูไม่ดี จึงให้สวมหน้ากากออกซิเจนแทน ทำให้สมองได้รับความเสียหายมาก เหลือสมองส่วนที่ยังใช้การได้ไม่ถึง 30 % โดยสมองส่วนที่ควบคุมความคิด และการทรงตัว จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
ในช่วงนั้นป้าสมจิตเสนอให้มีการตั้งผู้สำเร็จราชการซึ่งก็คือตัวป้านั่นเองเพราะลุงมีอาการเข้าขั้นผู้ทุพพลภาพ สมัยแต่งงานกันใหม่ๆ ตอนที่ลุงบวชสร้างภาพ 15 วัน ก็ยังได้แต่งตั้งให้ป้าเป็นผู้สำเร็จราชการ สำหรับผู้ที่จะชี้ขาดว่าขาดว่าลุงเป็นคนพิการทุพพลภาพแล้วหรือไม่ก็คือคณะที่ปรึกษาที่มีเปรมิกาเป็นหัวหน้า แต่หญิงกลางสิรินเทพคัดค้านเต็มที่ จนเกิดปากเสียงเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรงไม่ไว้หน้ากัน
พลเอกเปรมรับปริญญาเอกวิศวะโคราช 19 ตค. 2554
เพราะหญิงกลางเชื่อว่าถ้ายอมให้ป้าขึ้นสำเร็จราชการมีหวังพังเอาง่ายๆ เพราะป้าเป็นคนโฉ่งฉาง ประเภทบู๊ล้างผลาญ ไม่เนียนเท่าที่ควร จึงไม่ควรขึ้นเป็นใหญ่ จะเป็นภัยต่อวงศ์ตระกูลเปล่าๆ
ส่วนเสี่ยอูก็ยังคงทำตัวเป็นเพลย์บอยคาสโนว่า ขนาดออกคำสั่งให้ย้ายโรงเรียนจ่าอากาศไปตาคลี และ ให้ย้ายโรงเรียนนายเรืออากาศไปมวกเหล็ก เพื่อจะเอาที่ของกองทัพอากาศย่านดอนเมืองไปสร้างฮาเร็มให้เมียน้อยและนางบำเรอ โดยกะจะสร้างวังฮาเร็มที่ใหญ่ติดอันดับโลกไปเลย ทำให้กองทัพอากาศไม่พอใจมาก หญิงกลางก็เลยได้กองทัพอากาศมาสมทบกับกองทัพบกได้โดยไม่ยากนัก

ราชินีสิริกิติ์ 3 ตค. 2553
แต่ป้าก็ยังมีความมั่นใจมากว่าการที่ลุงป่วยหนักแบบพิการถาวรเช่นนี้เป็นโอกาสอันดีที่ป้าจะได้ขึ้นว่าราชการแทนไม่ช้าก็เร็ว  ป้าจึงต้องรีบปรับปรุงตัวให้มีรูปร่างที่สเลนเดอร์เพรียวลมไม่เป็นกระปุกตังฉ่ายเดินได้อย่างที่ผ่านมา  ป้าอุตส่าห์เข้าคอร์สโยคะ เพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ป้าได้คุยกับเจ้าหญิงชิลเวียแห่งสวีเดนและเจ้าหญิงอเล็กซันดราแห่งกรีซว่า แม้จะมีคำทำนายโบราณจากบรรดาเหล่าเกจิอาจารย์ทั้งหลาย ตรงกันว่าไทยแลนด์จะไม่มีรามาองค์ที่สิบ แต่ป้าจะเป็นคนล้างอาถรรพ์หักธงคำทำนายทั้งหลายให้จงได้ ขณะที่ลุงซึ่งหมดสภาพไปนานแล้วก็กลัวการขึ้นมามีอำนาจของป้าเป็นอย่างยิ่ง เวลานั่งต้อนรับแขกก็ยังต้องนั่งห่างกัน ไม่ให้เก้าอี้ติดกัน พอแขกกลับ ป้าก็จะไม่พูดไม่จากับลุง ต่างคนต่างแยกกันไปคนละทาง บ้านใครบ้านมัน ทีมใครทีมมัน ไม่มีใครไว้ใจกันอีกต่อไปแล้ว คนทั่วไปก็ดูออกว่าลุงรักนางทองดำซึ่งเป็นแค่หมาราคาถูกมากกว่าป้าสมจิตซึ่งเป็นเมียบังเกิดเกล้าของตนเองเสียอีก

ร่วมทอดพระเนตรระดับน้ำเจ้าพระยา 15 พย. 2554
ลุงสมชายเองก็รู้ตัวดีว่าถ้าป้าแกสามารถขึ้นนั่งบัลลังก์แทนได้เมื่อไร ลุงก็คงจะต้องลำบากถึงขั้นอับเฉาไปตลอดชีวิตเป็นแน่ ลุงจึงต้องรีบแต่งตั้งให้หญิงกลางเป็นตัวแทนของลุง เป็นผู้ประสานงาน และจัดตั้งทีมงานดูแลความปลอดภัยให้ลุง รวมทั้งจัดการเรื่องทรัพย์สมบัติทั้งหมดของลุง โดยให้ประสานกับเปรมิกาและคณะที่ปรึกษาของลุงทั้งหมด มันคงเป็นเรื่องปกติของปลายรัชกาลที่มีเดิมพันสูงมากเป็นประวัติการณ์ ทั้งเรื่องของอำนาจสูงสุดและทรัพย์สินอีกหลายแสนล้านบาท


งานฉลองวันเกิดกษัตริย์ภูมิพล  5 ธค. 2554
หญิงกลางเองก็ต้องเดินหน้าพิทักษ์วงศ์ตระกูลอย่างเต็มที่ ในเมื่อป้าทรยศต่อลุง ถึงจะเป็นแม่แท้ๆแต่เล่นคบชายอื่น และร่วมมือกับชายอื่น วางแผนมาล้มพ่อแท้ๆ หญิงกลางก็ต้องยอมเป็นลูกทรพีต่อแม่ แต่จงรักภักดีต่อพ่อผู้เป็นเสาหลักของตระกูล ขณะที่เสี่ยอู แม้จะเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่ก็ไม่มีความเหมาะสมที่จะสืบบัลลังก์อีกต่อไปแล้ว ถ้าเสี่ยอูนั่งบัลลังก์ ก็เท่ากับเปิดทางให้ระบอบรักสินซึ่งเป็นอริราชศัตรูตัวสำคัญของตระกูล หญิงกลางจึงต้องรับภาระเป็นนารีขี่ม้าขาวกอบกู้ความมั่นคงและมั่งคั่งของวงศ์จักรราวีให้กลับมารุ่งโรจน์สูงสุดตลอดไปอย่างไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้ในพื้นพิภพนี้


ฉลองวันเกิด 5 ธันวา 2554
ระยะหลัง ป้าสมจิตและลูกๆ ของลุง ไม่ค่อยได้มาเยี่ยมลุงเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว ป้าจะปรากฏตัวก็ต่อเมื่อเป็นงานใหญ่จริงๆ ป้าถึงจะยอมมาออกงานร่วมกับลุง ป้าย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านสวนจิตร พอดึกๆ ป้าก็มักจะไปทำหน้า ทำสปา ขัดผิว เข้าคอร์สแอนตี้เอจจิ้งเพื่อลบริ้วรอยชะลอความแก่ที่โรงแรมเซ็นทราแกรนด์ ที่ๆ เดียวกับที่หญิงใหญ่อุบารัตนนชอบมาทำตอนดึกๆ เพราะคงเห็นว่าหญิงใหญ่ทำแล้วดูดีขึ้น
เสี่ยอูก็เริ่มไม่พอใจลุง ที่ลุงเริ่มมีท่าทีหมางเมิน และด่าว่าเสี่ยอย่างรุนแรงที่ไม่เอาใจใส่ลูกเมีย


พล.ต.หญิง สุทิดา วชิราลงกรณ์
แถมยังไปแต่งตั้งเมียน้อย ให้เข้ามาทำงานที่บ้านหลังใหญ่ ใช้นามสกุล วชิราอลงกรณ์  และให้เอาเสื้อชุดฝึกบินของรัศมีจันทร์มาแก้ขนาดให้เมียคนใหม่ และจะยึดพระเครื่องคืน แต่รัศมีจันทร์ไม่ยอม เลยทะเลาะกัน บังเอิญปังปอนอยู่แถวนั้นเลยโดนลูกหลง ริมฝีปากแตก ต้องให้หมอระดับผู้บริหาร เข้าไปเย็บแผลให้ เสี่ยยังได้แต่งตั้งสุทาธิดา วชิราอลงกรณ์ ภรรยาที่ได้มาใหม่ให้เป็นองครักษ์ประจำตัวในยศพลตรี เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 หลังเลิกห่างจากพลอยสว่างและรวมทั้งน้องเอิงที่เป็นแอร์โฮสเตรสทั้งคู่


หมออุดม คชินทร คณบดีศิริราช
ลุงเองก็มีสภาพเหมือนปังปอนที่เป็นเด็กสมองช้า และมีอาการพิการทางสมองที่เด่นชัดมากขึ้นพอๆกัน
ลุงได้มอบหมายให้สิรินเทพคอยควบคุมดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของลุงโดยประสานงานกับหมออุดมที่เป็นคณบดีโรงหมอสีหราช
การผ่าตัดในครั้งก่อนไม่ได้มีการผ่าระบายน้ำในโพรงสมองเข้าช่องท้องแต่เลี่ยงมาผ่าระบายน้ำจากไขสันหลังเข้าในช่องท้องแทน ทำให้การระบายของน้ำในสมองไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้ที่ลุงมีอาการเลือดออกในสมองเกิดขึ้นอีก และน้ำในโพรงสมองไม่สามารถระบายออกได้ และมีอาการชักกระตุก หมอต้องป้องกันไม่ให้ลุงเกิดอาการชักซ้ำซาก เพราะอาจทำให้ลุงมีเสียชีวิตได้ทุกเวลา
กษัตริย์ภูมิพลที่ศิริราชต้นปี 2554
อาการของลุงทรุดลงไปมาก ประกอบกับอาการเลือดออกในลำไส้ใหญ่ จากโรคลำไส้โป่งพองเป็นกระเปาะ ลุงเคยเป็นโรคเลือดออกในกระเพาะ จากการที่ลุงยังดื่มเหล้าอยู่ เพราะไม่มีใครกล้าห้ามลุงได้ ลุงเคยโดนส่องกล้องในกระเพาะเมื่อหลายปีก่อน
คณะแพทย์ทางสมองมีความเห็นตรงกันว่าจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อระบายน้ำในสมองใหญ่ อย่างเร่งด่วน เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ จะทำให้สมองลุงถูกทำลายเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

ถ้าช่องโพรงสมองกับไขสันหลังอุดตัน เกิดน้ำในโพรงสมอง
แต่สิรินเทพไม่ต้องการให้ลุงผ่าตัดระบายน้ำในโพรงสมอง โดยอ้างว่าต้องการให้รอทีมแพทย์จากอเมริกา และสั่งให้รักษาแบบประคับประคองไปก่อน การที่ลุงไม่ได้รับการผ่าตัดสมองก็ยิ่งทำให้ลุงไม่มีทางที่จะฟื้นกลับมาเหมือนเดิมได้อีกเลย

กษัตริย์ถูกเข็นออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ ขณะที่ยังป่วย 2555
ผลการตรวจคลื่นสมองหรือ MRI สมองของลุงพบว่ามีเนื้อสมองถูกเบียดถูกทำลายลงไปเรื่อยๆ เหลือเนื้อสมองส่วนที่ดีบางมาก ไม่ถึง 30% หญิงกลางสิรินเทพที่เป็นคนคุมอำนาจดูแลการรักษาลุง ก็ไม่ต้องการให้ลุงเสียชีวิตในตอนนี้ เพราะการเสียชีวิตของลุงจะเป็นการเปิดทางให้เสี่ยขึ้นนั่งบัลลังก์แทนทันทีโดยมีปังปอนขึ้นเป็นทายาทคนต่อไปแบบอัตโนมัติ สิรินเทพจึงต้องพยายามยืดชีวิตของลุงออกไปก่อน จนกว่าแผนการรวบอำนาจที่สิรินเทพและเปรมิกาได้ร่วมกันวางไว้จะเสร็จสมบูรณ์ตามแผนเสียก่อน


แย่งสมบัติฟัดกันนัว


ราชินีสิริกิติ์ 11 สค. 2551
สิรินเทพก็ไม่ค่อยพอใจป้าเอามากๆจากการที่ป้าไปลุ่มหลงในตัวลิ้ม จนเป็นที่มาของคลิ้ปปลาวาฬราดเบียร์ ความยาวประมาณสิบกว่านาที ขณะป้าทำตัวเหินห่างจากลุงซึ่งมีอาการทรุดลงไปเรื่อยๆจนถึงขั้นเป็นคนใกล้พิการ ป้ายังทำตัวเหลวแหลกเหมือนเดิมทำให้สิรินเทพหมดความเกรงใจ และสิรินเทพเองก็เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นว่าตนคือผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่ต้องนั่งบัลลังก์เพื่อความมั่นคงของตระกูล เพราะเสี่ยอูผู้เป็นพี่ไม่มีคุณสมบัติพอที่นั่งเก้าอี้ใหญ่ของตระกูลอีกต่อไปแล้ว

งานราชวัลลภ ตรวจพลสวนสนาม 4 ธค. 2551
ลุงสมชายกับป้าสมจิตไม่ใช่คู่ทุกข์คู่ยากเหมือนคู่ผัวเมียแบบชาวบ้านทั่วๆไปในวัยชรา ที่ต้องคอยดูแล อยู่เคียงข้างคอยปรนนิบัติเอาใจใส่กัน เพราะทั้งคู่ไม่ถูกกันมานานแล้ว ป้าดูถูกแม้กระทั่งสังวอนผู้เป็นแม่ของลุงว่าเป็นลูกคนจีนที่ไม่มีสกุลรุนชาติ ขณะที่ลุงก็รู้ดีว่าพ่อของป้าสมจิตเป็นพวกขายลูกสาว ให้ลูกแต่งงานเพื่อหวังให้เป็นราชินี เชื่อกันว่าลุงเป็นคนสั่งเก็บพ่อตาเหมือนที่สั่งเก็บคุณน้ำผึ้งคนรักของป้า  ลุงกับป้าจึงแยกห้องกันนอนมาหลายสิบแล้ว ต่างคนก็ต่างเป็นอิสระ ไปมีกิ๊กตามรสนิยมของใครของมัน ป้าก็คุมทหารเสือราชินีและมักสั่งการเอง เพราะป้ามีลูกบู๊คือกล้าหาญถึงลูกถึงคนมากกว่าลุง เรียกได้ว่าเหนือลุงก็ยังมีป้า แต่ที่บ้าก็คือเสี่ย เพราะขณะที่ป้าก็พยายามคุมเสี่ยเพราะเป็นทายาทคนเดียว แต่มาระยะหลังเสี่ยก็มีปัญหาทั้งเรื่องความประพฤติและเรื่องสุขภาพ และยังเป็นที่ไม่พอใจของลุงเป็นอย่างมาก

เยี่ยมชมร้านโกลเด้นเพลซ ของ บ.สุวรรณชาด 6 พค. 2555
ช่วงที่ลุงย้ายสำ มะโน ครัวมาอยู่ที่โรงหมอสีหราช ชั้น
16 ที่ลุงอยู่ก็เป็นค่อนข้างใหม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่าง พร้อมเครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีความหรูหราระดับโรงแรมห้าดาว อาหารการกินจากภัตตาคารชั้นเลิศ ตึกนี้จะมีอยู่สองฝาก ฟากที่ลุงอยู่จะเป็นเขตควบคุมความปลอดภัยสูงสุดโดยเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธสงครามทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำอยู่ทุกจุด ที่เห็น จะเป็นนอกเครื่องแบบกันมากกว่า คนพวกนี้จะอาศัยห้องของผู้ป่วยเอาไว้นอน หน้าห้องจะเขียนเอาไว้ว่า กองกำลังนี้คือ 902 904 หรือ 905 ทุกคนจะพกปืนไว้เตรียมพร้อมตลอดเวลา คนที่อยู่คนละกองกำลังจะไม่พูดหรือแม้แต่จะทักทายกัน เพราะแต่ละฝ่ายต่างก็คงจะไม่ค่อยไว้วางใจกัน คนที่อยู่กับลุงเป็นประจำก็คือสิรินเทพ


ความโลภไม่เคยปราณีใคร

เสาวภาผ่องศรี มเหสี ร.5 นักสะสมเครื่องเพชร
เป็นที่ทราบกันดีว่าวงศ์ตระกูลจักรราวีเป็นพวกที่ใช้เงินเหมือนน้ำ เป็นมาตั้งแต่ท่านปู่รามาห้าที่สร้างคฤหาสน์ให้ลูกหลานทุกคนที่เรียนจบเมืองนอก เมียหลวงทั้งสามคนที่เป็นน้องร้วมพ่อดียวกันก็มีชื่อเรื่องการสะสมเพชรพลอยเป็นหีบๆ ป้าสมจิตก็เป็นพวกสะสมเพชรพลอยถึงขนาดยักยอกเอาเพชรสีน้ำเงินของราชวงศ์ซาอุมาไว้ในครอบครองอย่างไม่กระดากอาย

เจ้าฟ้าเพชรัตน์ราชสุดาสิ้นพระชนม์ 27 กค. 2554
เมื่อเจ้าเพชราดซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของประธานรามาหกถึงแก่กรรม ทิ้งมรดกทั้งที่ดินและของมีค่าร่วมหลายพันล้านบาท ก่อนที่เธอจะสิ้นลมได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ให้โสภาวลีที่ได้ทำหน้าที่ดูแลเพชราด แต่หลังจากที่เพชราดตายได้ไม่ทันไร ทั้งหญิงกลางและหญิงเล็กก็แย่งกันเป็นผู้จัดการมรดก แต่ลุงสั่งอายัด ยังไม่ให้แบ่งเป็นของใครทั้งสิ้น ลุงเองไม่ค่อยชอบสายตระกูลของรามาหก เพราะอาจมีเรื่องผูกใจเจ็บกันบางอย่าง

หลวงตาบัวมรณะ 30 มค. 2554
ตอนที่เผาสังขารของหลวงตาดอกบัวก็มีข่าวการฮุบทรัพย์สมบัติเพราะหลวงตาแกเป็นอรหันต์จึงไม่จำเป็นต้องมีอะไรเหลืออีกต่อไปแล้ว รวมไปถึงกิจการดาวเทียมของรักสินที่ลุงซื้อผ่านเทมากูเสก ก็ยังได้ส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่น
25 % จากการริบเงินของรักสิน 4.6 หมื่นล้านบาทในฐานะผู้แจ้งเบาะแสโดยไม่ประสงค์จเผยตัว  จนทุกคนในครอบครัวของลุงพากันยิ้มหน้าบานไปได้พักหนึ่ง

เสด็จงานเอ็กซโป เซี่ยงไฮ้ 19 กค. 2553
แต่สมาชิกครอบครัวของลุงเป็นพวกเกิดมาเพื่อล้างผลาญขนานแท้ เพราะทำมาหากินไม่เป็น แต่ถนัดเรื่องใช้จ่าย ทำตัวเหมือนเป็นมหาเศรษฐียิ่งกว่าเจ้าของบ่อน้ำมันเสียอีก   ขนาดหญิงกลางที่ทำตัวซ่อมซอแต่หอบเอาเงินไปสร้างคฤหาสน์หลังใหญ่ในเซียงไฮ้  ส่วนหญิงเล็กมีนิสัยเหมือนแม่ คือ ชอบสะสมเครื่องเพชรเป็นงานอดิเรกแบบเอาจริงเอาจังมาก

อุบลรัตน์ราขสุดา
ส่วนหญิงใหญ่ก็ทำตัวเป็นนางเอกรุ่นคุณป้ายังสาว ที่เฉิดโฉมเพริดพริ้งเริดหรูอลังการงานสร้าง  หากินกับวัยรุ่นด้วยโครงการทูบีหมายเลขหนึ่งได้เงินจากหลายๆโครงการรวมแล้วหลายพันล้านบาท 

อุบลรัตน์เปิดศูนย์เพื่อนใจ เพชรบูรณ์ 13 มค.2557
คนในครอบครัวลุงถนัดในการหากินจากการเดินสายรับบริจาค ที่เรียกว่าร่วมทำบุญทำกุศลตามอัธยาศรัย โสภาวลีก็ชอบจัดงานกาลีดินเนอร์ที่โรงแรมดุสิต ขายบัตรชวนคนมาดินเนอร์ใบละเป็นแสนอ้างว่าจะเอาเงินไปทำบุญส่วนตัว

จุฬาภรณ์แจกปริญญาม.สงขลานครินทร์ 2555


แหล่งรายได้ที่สำคัญเหมือนน้ำบ่อทรายที่ไหลโกรกกรากก็คือการมอบใบปริญญา ที่ทำรายได้ให้กับคนในตระกูลของลุงได้อย่างมากมายในแต่ละปี เป็นอาชีพที่หญิงใหญ่ชอบมากๆ  เพราะว่า ไม่ต้องใช้ความรู้อะไรเลย หญิงใหญ่จึงรับจ๊อบเดินสายแจกใบประกาศทุกระดับทั้งมหาลัย โรงเรียนพาณิชย์ ลงไปถึงโรงเรียนอนุบาลผึ้งน้อย
รัศมีจันทร์เองก็กำลังทำดอกเตอร์เกียรตินิยมเหรียญทอง แล้วก็หันมาเดินสายแจกใบประกาศหาเงินใช้แบบเป็นกอบเป็นกำบ้างเหมือนกัน
ลุงสมชายเองก็มีทรัพย์สมบัติมากกว่าปู่โสมหลายพันหลายหมื่นเท่า แถมไม่ต้องสียภาษีและไม่มีใครกล้าตรวจสอบ

งานฉลองวันเกิด 5 ธันวา 2553
แต่ลุงแกเป็นพวกตระหนี่ถี่เหนียวระดับโลก คือ ปล่อยให้ลูกๆหลานๆไปหาทางรีดไถเอาจากชาวบ้านเอง เรียกว่าเงินของใครของมัน ใครมีปัญญาก็น่าจะหาเงินได้ไม่ยาก เพราะช่องทางมันเยอะมาก ใครๆก็ต้องเกรงใจเพราะเป็นลูกลุงสมชายผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน ตัวลุงเองจะได้เงินปันผลจากในกลุ่มของ ปูนซิเมนต์และธนาคารไทยพาณิชย์ 
ส่วนป้าจะได้ในส่วนของ โรงแรมและห้างหรู ลุงสมชายแกขึ้นชื่อในเรื่องของความเค็มหรือขี้เหนียวเป็นที่สุด เวลาจะควักเงินบริจาคให้สาธารณะแต่ละที ก็แสนจะลำบากยากเย็นกว่าที่เงินจะกระเด็นออกมาได้ ลุงเคยบริจาคเงินให้เอาไปติดตั้งไฟจราจร
1 ล้านบาท หลังจากที่แกลงนั่งกดเครื่องคิดเลขคิดแล้วคิดอีกตั้งนานกว่าจะทำใจได้

แก้วขวัญ(ซ้าย) ขวัญแก้ว(ขวา) วัชโรทัย
ไม่มีใครรู้ว่าลุงมีเงินสดมากมายขนาดไหน รู้กันแต่เพียงว่า ลุงจะให้พี่น้องนายแก้วและนายขวัญ วัชโรไทยแลนด์ เป็นคนดูแล เอาเงินสด เกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ แยกเก็บเป็นสองบัญชี ที่ ธนาคาร UBS ที่ใหญ่ที่สุดของสวิส และที่ เครดิตสวิส Credit Suisse บริษัทไฟแนนซ์ยักษ์ใหญ่ของสวิส โดยที่ลุงจะใช้ชื่อคนอื่นเป็นนอมินี  แต่ส่วนของป้าจะได้เงินส่วนแบ่งจากกองกลางปีละหลายร้อยล้านบาท โดยป้าจะได้รับเงินทุกวันที่ 20 ของทุกเดือนจากแบงค์ไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่รัชโยธิน



ราชินีสิริกิติ์เสด็จรัสเซีย 2550
ช่วงหลังเงินของป้าเริ่มขาดมือเงินของป้าเพราะป้ามีภาระต้องส่งเสียเลี้ยงดูลิ้มที่กลายมาเป็นกิ๊กคนใหม่ที่กำลังถังแตกอย่างแรงเพราะมีแต่คนถอยห่างออกไปเรื่อยๆ เพราะลิ้มมีนิสัยขี้โกง ไม่มีใครอยากคบและสปอนเซอร์ทั้งหลายเริ่มเกรงใจลุง เพราะรู้กันแล้วว่าลุงไม่ชอบขี้หน้าลิ้มเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ลิ้มจึงต้องหันมาพึ่งป้าเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ซึ่งป้าก็ดีใจหาย ทุ่มเทให้ลิ้มอย่างไม่เคยเสียดาย มันทำให้สมาชิกในครอบครัวของลุงไม่พอใจ เป็นอย่างมาก  ป้าเคยโทรสั่งให้โสภาวลีขอเงินจากกองกลางไปให้ลิ้มและฝากให้แต่งตั้งคนของลิ้มเข้าไปถือหุ้นลมในโรงแรมดุสิต

แผนไขน้ำท่วมเมือง


ยิ่งลักษณ์หาเสียงเลือกตั้งทั่วไป 3 กค. 2554
ถึงแม้ว่าลุงกับป้าจะไม่ถูกกัน แต่ทั้งคู่ก็มีศัตรูคนเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อน้องสาวของรักสินชนะการเลือกตั้งเมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 แบบถล่มทลายพลิกความคาดหมายของเครือข่ายแมงสาบ ทำให้ทั้งป้าและลุงต้องรีบหาทางสกัดดาวรุ่งนายกหญิงคนแรกของไทยแลนด์ ป้าสั่งให้ดำเนินการทุกทาง ไม่ให้ยิ่งฮักได้นั่งเก้าอี้ แต่ป้ากะจะใช้ทหาร เพราะแกถนัดทางใช้กำลังซึ่งมันไม่เนียนพอ ขณะที่ลุงจะใช้ทางกฎหมายเบิกทางเข้าไปก่อน โดยใช้วัลภาหลานสาว เป็นสะพานเชื่อม โดยลุงไฟเขียวให้ศาลรัดทำมะนวยเตรียมรับมีดเฉือดรัฐบาลของพวกระบอบรักสิน  แต่ลุงก็ต้องการให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายหรือเกิดวิกฤติการณ์ขนานใหญ่เพื่อสร้างความชอบธรรมในการดำเนินการขั้นต่อไป

น้ำไหลบ่าท่วมใหญ่ทั่วประเทศไทย ปลายปี 2554
ที่ปรึกษาของลุงคนหนึ่งเสนอให้ใช้แผน ไขน้ำท่วมเมืองเนื่องจากเป็นฤดูน้ำหลาก เพราะคนของลุงก็คุมเรื่องน้ำต่อเนื่องมานานแล้ว ลุงเองก็ยังเคยได้รางวัลระดับโลกในฐานะเป็นเจ้าพ่อแห่งน้ำ เรื่องนี้นายไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาใหญ่ของกบฏคมช.เคยเขียนไว้อย่างละเอียดในพงศาวดารจีนเรื่องสามก๊กฉบับคนขายชาติ ตอนที่
167 ที่เขาฮิวเสนอให้โจโฉเกณฑ์ทหารไปทำทำนบทดน้ำไว้ให้เต็มที่ จากนั้นจึงรื้อทำนบที่ทดน้ำไว้ ให้น้ำจากแม่น้ำเจียงโหไหลบ่าเข้าน้ำท่วมเมืองอย่างรุนแรง จึงค่อยยกทหารเข้าตีเมืองกิจิ๋ว


ร่วมกับดิสธร (เสื้อสีฟ้า) ดูระดับน้ำเจ้าพระยา 15พย.2554
เรื่องนี้ไปเข้าทางหรือเข้าเท้าของลุงอย่างเต็มพระบาท  ลุงจึงสั่งการให้คนที่ลุงไว้ใจเกี่ยวกับเรื่องน้ำเข้าปรึกษาวางแผนกันอย่างจริงจัง มีหัวหน้าทีมรับผิดชอบสองคน คือ อธิบดีกรมส่งน้ำ และคนที่เป็นแม่งานหลัก คือ พงศธร ลูกของขวัญแก้ว วัชโรไทยแลนด์รองเลขาของลุงฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ซึ่งเป็นคนที่ลุงไว้ใจและเชื่อฝีมือมาก


ดิสธร วัชโรทัย รองราชเลขาธิการ
พงศธรเป็นคนคุมโครงการพระราชดำแหลกทั้งหมดของลุง ทำหน้าที่ประสานงาน เรื่อง การทำฝนเทียม การสร้างเขื่อน สร้างฝาย และโครงการต่างๆ ของกรมส่งน้ำเกือบทั้งหมด


สุขุมพันธุ์ผู้ว่ากทม. ทำพิธีไล่น้ำที่ศาลหลักเมือง 8 ตค. 2554
พงศธรสั่งให้เร่งระดมทำฝนเทียมเหนือเขื่อนอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลา 3-4 เดือน เพื่อกักน้ำให้มีมีระดับสูงที่สุด
เมื่อได้จังหวะที่มีน้ำไหลเอ่อเข้ามาในพื้นที่เป้าหมาย ก็สั่งการให้รีบเปิดประตูระบายน้ำพร้อมๆกันทันทีทุกประตู เพื่อให้เกิดแรงดันน้ำสูงที่สุดให้ไหลท่วมกำแพงกั้นน้ำอย่างรุนแรง
แล้วก็ได้ผลตามแผนที่ลุงวางไว้ทุกประการ ด้วยความร่วมมือจากกรมส่งน้ำ กรมทำฝนเทียมและหม่อมสุขุมพังผู้ว่าการจังหวัดกรุงเทพ

รัชทายาทผู้ไม่มีความพร้อม


วชิราลงกรณ์กับภรรยาอีกคนหนึ่งในเยอรมัน 2552
 เสี่ยอูทำตัวให้ทั้งลุงและป้าผิดหวังมาตลอด เพราะยังทำตัวเป็นเพลย์บอยจอมเจ้าชู้ไม่เลิก ทั้งๆที่อายุล่วงเข้าวัยเกษียณแล้ว อีกทั้งมีปัญหาเรื่องโรคร้ายแรง แต่ก็ยังตั้งหน้าเป็นนักล่าผู้หญิงไม่เลิก เหมือนตั้งใจจะลบสถิติคนมีเมียมากที่สุดของวงศ์จักราวี เสี่ยถึงกับยึดเอาที่ดินที่สวนอัมพรเขตวังดุสิต ไปสร้างวังหลังใหญ่ให้เมียที่ชื่อน้องเอิงอยู่อาศัยแบบอลังการณ์ ทำให้โสภาวลีไม่พอใจมาก เพราะบ้านของโสภาวลีอยู่ไม่ไกลจากสวนอัมพร แค่เดินทะลุไปก็ถึงแล้ว รัศมีจันทร์และโสภาวลีจึงมีชะตากรรมเหมือนๆกัน คือถูกเสี่ยอูทิ้งขว้างเป็นสินค้าหมดอายุเหมือนกัน


โสมสวลี ในงานกาชาด  3 เมย.2555
แม้ว่ารัศมีจันทร์จะเคยเป็นคู่แค้นไม่กินเส้นกับโสภาวลีมาก่อน แต่เธอก็ต้องหันไปสร้างพันธมิตรเอาอกเอาใจโสภาวลี ทั้งๆที่เมื่อก่อนเธอจะเรียกโสภาวลีว่าอีอ้วนหรืออีหมูพะโล้มาตลอด  แต่ตอนหลังเธอต้องเรียกพี่โฉมทุกคำ รัศมีจันทร์มักจะพาปังปอนไปเยี่ยมเยียนปรับทุกข์กับโสภาวลีเป็นประจำ จนปังปอนติดโสภาวลีและเรียกว่าคุณแม่ใหญ่ได้อย่างสนิทปาก แถมยังมีข่าวว่าโสภาวลีอาจได้ครอบครองมรดกทั้งหมดของเพชราด จึงทำให้โสภาวลีเนื้อหอมเป็นพิเศษ มีคนหันมาตีสนิทหลายคน


วชิราลงกรณ์ขับเครื่องบิน 737-400 เพื่อการกุศล 5 มค. 2550
เสี่ยอูมีเครื่องบินรุ่น 737 อยู่ทั้งหมด 3 ลำ โดยกองทัพอากาศมอบให้มอบให้ 2ลำ อีกลำหนึ่งการบินไทย มอบให้ เพราะในช่วงการยึดอำนาจ คือ หลังปี 2549 รัฐบาลรัฐประหารสุรายึดจะประเคนถวายให้ครอบครัวลุงได้ครบถ้วนทุกอย่าง ทั้งการแก้กฎหมาย หรือ จะเป็นของแพงขนาดไหนก็จัดให้ รวมทั้งวังทวีวัฒนาราคาร่วม 1000 ล้านบาทของรัศมีจันทร์ เสี่ยอูมีงานอดิเรกคือขับเครื่องบิน ขับเล่นไป-กลับแต่ละเที่ยว ก็ใช้น้ำมัน เกือบ 80 ตัน น้ำมันตันละ 30000-40000 บาท ก็คิดเป็นค่าน้ำมันราวเที่ยวละสามล้านบาท  ยังไม่รวมค่าธรรมเนียนบินผ่านน่านฟ้า และค่าธรรมเนียมลงจอดอีก รวมแล้วก็ร่วม 10 ล้านบาท ต่อ เที่ยวบิน

  


สภาพภายในห้องผู้โดยสารเครื่องบินพระที่นั่ง
ภายในเครื่องบิน ของเสี่ยมีการตกแต่งหรูหรามาก เสี่ยและนักบินรวมทั้งครอบครัวจะขึ้นทางประตูหน้า ส่วนลูกน้อง และผู้ติดตาม จะขึ้นทางประตูหลัง คราวละ 40-50 คน ตรงกลางลำจะเป็นที่เก็บสัมภาระ เสี่ยต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในเยอรมัน เพราะช่วงนั้นเสี่ยได้สร้างคฤหาสน์ ราคา 200 ล้าน ที่เยอรมันไว้อยู่กับภรรยาน้อย เป็นแขกขาวมุสลิม ชาวปากีสถาน และเสี่ยต้องมารักษาตัวด้วยโรคร้าย


เครื่องบิน737-400 ถูกยึดที่มิวนิค 20 กค.2554
ค่าไถ่ 20 ล้านยูโร หรือกว่า 800 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้เสี่ยเคยเข้าร่วมโครงการวิจัยวัคซีนต้านโรคเอดส์ที่ โรงพยาบาลพระมงกุฎ แต่ได้เลิกล้มไปแล้ว จึงต้องมาเริ่มต้นการรักษาที่เยอรมัน โดยต้องมาตรวจเช็คไวรัส ทุกหนึ่งหรือสองเดือน
วันที่โดนยึดเครื่องบิน เพราะตอนนั้นมีนัดกับหมอที่เยอรมัน โดยที่ประวัติการรักษายังติดอยู่บนเครื่อง และทางการเยอรมันก็ตรวจพบอาวุธสงคราม เช่น ปืนอาร์ก้า และตรวจพบยาเคตามีนหรือยาเคที่เข้าข่ายเป็นยาเสพติดกล่อมประสาท และ กัญชา ปริมาณไม่มาก แต่ไม่ใช้ผงขาว อย่างที่โสภาวลีเคยโดนจับที่ฝรั่งเศส แม้ว่ายาเคตามีนเป็นยาที่เสี่ยจำเป็นต้องใช้เวลาแก้ปวดศีรษะ เพราะเสี่ยเคยเป็นโรคเชื้อราขึ้นสมอง จนมีข่าวลือว่าจะเสียชิวิต จนรัศมีจันทร์ต้องออกมาแก้ข่าว

ตอนนั้นเสี่ยหงุดหงิดมาก ต่อมารัฐบาลต้องจ่ายเงินแก่ทางการเยอรมันที่ยึดเครื่องบินเพื่อทวงเงินค่าผิดสัญญาดอนเมืองโทลล์เวย์ ทางเยอรมันจึงได้ยอมคืนเครื่องบินให้

วชิราลงกรณ์และศรีรัศม์วรชายา
การรักษาอาการป่วยด้วยโรคร้ายของเสี่ยที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันนั้น ต้องกินยาทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น ทุก 12 ชั่วโมง และต้องถ่ายเลือดเป็นประจำ เสี่ยจะใช้เลือดของทหาร ที่มีร่างกายที่แข็งแรง ที่ได้รับสมัคร และเลี้ยงดูไว้อย่างดี แต่ระยะหลังเลือดกรุ๊ป B หายากขึ้น จึงใช้ กรุ๊ป O แทน แต่ร่างกายเกิดการต่อต้านขึ้น จึงหันมาลองใช้เลือดของผู้หญิงแทน พร้อมทั้งมีการรับบริจาคโดยสภาการชาดที่วังสุโขทัย และ วังทวีวัฒนา โดยเสี่ยจะไปนอนรับเลือดทุกๆ 3 เดือน ครั้งละ 2 ถุง ที่โรงพยาบาลจุฬา ที่ตึกส.ก. ชั้นที่ 20 ต่อมาเสี่ยจะมีไข้ทุกครั้งหลังรับเลือด และผิวหน้าเริ่มหมองคล้ำมากขึ้น เข้าใจว่าอาจเป็นเพราะรับเลือดผ่านสภากาชาดที่มีหญิงกลางเป็นคนดูแล



พล.อ.อ.โยธิน ประยูรโภคราช กรมวัง
เสี่ยจึงเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตนเองกำลังตกเป็นเป้าหมายเพื่อการจ้องทำลายโดยหวังที่จะก้าวไปสู่บัลลังก์แทน เสี่ยได้สั่งให้มีโครงการพื้นที่ 904 ให้พลอากาศเอกโยธิน ประยูรโภคราช เป็น ผู้สำเร็จราชการพิเศษ

ทีปังกรเปิดงานวันเด็ก 2556 ณ พื้นที่ควบคุมในพระองค์ 904 ถ.ราชวิถี
ก่อสร้างโครงการที่พักอาศัยสำหรับข้ารับใช้ของเสี่ยโดยตรง บริเวณถนนพระราม 5 เขตดุสิต บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ เป็นตึก 8 ชั้น จำนวน 2 ตึก รวม 327 หน่วย พร้อมด้วยระบบสาธารณูปโภคครบครัน ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัย และยังได้ปรับปรุงโครงการบ้านเอื้ออาทรพุทธมณฑลสาย 7 ให้เป็นที่พักอาศัยของทหารมหาดเล็กของเสี่ยอู เป็นคอนโด 5 ชั้น จำนวน 13 แท่ง รวม 581 หน่วย โดยจัดให้เป็นเขตปกครองพิเศษ มีอำนาจอิสระ มีกองกำลังพิเศษของตัวเองด้วย โดยขึ้นกับกองบัญชาการทหารสูงสุด ในการนี้เสี่ยอูสั่งได้ให้มีการคัดเลือกกำลังพลเพิ่มอย่างเต็มที่เพื่อเป็นฐานกำลังรบของตนเองต่อไป

วัลภาตัวประสานงาน
ตุลาการคนใหม่


องค์ภาได้รับแต่งตั้งเป็นอัยการผู้ช่วยในปี 2549
ลุงได้วางตัววัลภาลูกสาวคนเดียวของโสภาวลีให้เป็นมือกฎหมายเพื่อดูแลระบบตุลาโกงต่อไปในอนาคต ที่ผ่านมาวัลภาอยู่บ้านสุโขทัยตามลำพังกับสามีคนที่
2 คนตัวเล็กๆที่เดินตามหลังเวลาออกข่าวสองทุ่ม มาระยะหลังๆ มักจะมีปากเสียงกันบ่อยเพราะวัลภาเป็นคนโมโหร้าย เอาแต่ใจตนเอง หงุดหงิดง่าย ตามประสาลูกคนรวย
เสวต อภัยรัตน์และองค์ภา
เธอจึงชอบไล่สามีออกจากบ้าน เธอคงเครียดหนักเพราะพ่อของเธอมักจะมาหาเรื่องกับโสภาวลีแม่ของเธอเรื่องเงินๆ ทองๆ ต่อมาลุงสมชายมอบหมายให้เธอดูแลพวกนักฎหมายเพื่อหาทางเล่นงานระบอบรักสินและครอบครัว เมื่อก่อนวัลภาทำงานอยู่ที่ ศาลพัทยา แต่เธอก็เหมือนลูกๆหลานๆของลุงสมชายคือเป็นพวกบ้าผู้ชาย ชอบออกเที่ยวกลางคืน แทบทุกคืน โดยเฉพาะ Hard rock จะมีการปิดถนนบ่อยมาก เพราะทุกคนต้องคอยดูแลให้บริการเธอเป็นพิเศษ


องค์ภาแถลงในนามไทยและอาเชียนต่อสมัชชาสหประชาชาติ 24 กย. 2555
เสี่ยอูก็เป็นห่วงลูกสาวคนนี้มาก เพราะวัลภาชอบเมาแล้วขับรถเป็นประจำ เธอเคยมีคดีขับรถชนมอเตอร์ ไซด์ที่นำ ขบวนจนบาดเจ็บอยู่เป็นประจำ ที่พัทยามีแหล่งบันเทิงใจมากเกินไป ที่สำคัญก็คือเธอไปมีปัญหาเรื่องชู้สาวกับอัยการที่พัทยา เสี่ยเลยต้องสั่งให้ย้ายวัลภาไปประจำอยู่ที่ หนองบัวลำภู ลุงได้ดึงวัลภาเข้ามาเป็น ทีมงานด้านกฎหมายเพื่อทำลายรักสินให้สิ้นซากต่อไป


ว่าที่ผู้สำเร็จราชการ
ที่เริ่มพิการไปแล้ว



งานตรุษจีน เยาวราช 23 มค. 2555
ส่วนป้านั้นก็มีปัญหาด้านสุขภาพมากทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องคลอเรสเตอรอลอุดตันในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองทำให้ต้องหามเข้าโรงหมอสีหราช โดยเมื่อ เช้ามืดของวันที่ 21 กค. 2555 ระหว่างที่ป้ากำลังออกกำลังใน สวนหย่อม ป้าเกิดมีอาการ ล้มลง หมดสติ หมอรีบพาป้าเข้าอุโมงค์สแกนรอบสมอง ผลการตรวจคลื่นสมองหรือ MRI



เกิดอาการสโตรคต้องเข้าศิริราชปลายกค.2555
พบเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองตีบ มีอาการสมองขาดเลือด ที่เรียกว่าสโตรค  แต่ป้ามีทีมงานจากที่อื่น โดยหมอยงชัย  ผู้ชำนาญการด้านประสาทและสมอง ประเภทอัมพฤกษ์อัมพาตเป็นคนดูแลป้าโดยตรง เพราะเมื่อเกิดการแตกของหลอดเลือดสมอง ก้อนเลือดจะเบียดดันเนื้อสมองส่วนที่ดี ทำให้เซลล์สมองทำงานผิดปกติ เกิดเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตตามมา


สโตรคหรืออาการสมองขาดเลือด
ป้ามีอาการ เส้นเลือดอุดตัน เลือดออกที่สมองน้อย ส่วนที่ควบคุมการทรงตัว ต่อมามีการอุดตันเพิ่มที่สมองใหญ่ด้านหน้าซึ่งเป็นสมองที่ควบคุมด้านอารมณ์และพฤติกรรม มีสาเหตุจากการที่ป้าสูบบุหรี่จัด และมีไขมันในเลือดสูง

ราชินีสิริกิติ์ช่วงก่อนเข้าศิริราชและเกิดหมดสติในห้องน้ำ
ป้าต้องเข้าทำกาย ภาพ บำ บัดเพื่อฟื้นฟู สมรรถ ภาพของกล้าม เนื้อและเส้น ประสาท ป้าซูบผอมลงไปมาก น้ำหนักตัวน่าจะลดลงไม่ต่ำกว่า 10 กก  ผมหงอกทั้งศีรษะ เพราะตั้งแต่ป้ามานอนรักษาตัว ป้าไม่ได้ย้อมผมเลย ไม่แต่งหน้าและไม่ทาปากแดงๆ อาการฟื้นตัวค่อนข้างดี ป้าพอจะเดินได้เอง แต่อาจจะมีเซบ้าง แต่ยังมีอาการทางด้านอารมณ์ จากความผิดปกติของสมองส่วนหน้า ทำให้ป้ามีอาการเกรี้ยวกราด โมโหร้าย คอยชี้หน้าด่าทีมหมอ และพยาบาลที่จะเข้าไปตรวจรักษา และเข้ามาวัดความดัน ห้ามใครพูดถึงลุงเป็นอันขาด เพราะป้าไม่ชอบ และจะอารมณ์เสียขว้างปาสิ่งของกันวุ่นวาย ป้าถามถึงเสี่ยอูอยู่บ่อยๆ แต่เสี่ยก็ไม่ค่อยมา นานๆถึงจะจะมาเยี่ยมป้าสักที
เรื่องที่ป้าพูดถึงมาก และเพ้อมากที่สุดก็คือเรื่องอนาคตของลุงและวงศ์ตระกูลที่ป้าวิตกว่าเริ่มไม่มีความแน่นอนอีกต่อไปแล้ว และที่ป้ากลัวมากก็คือไม่อยากให้ลูกต้องมาทะเลาะ มาแย่งมรดกกัน เพราะป้าเองก็เป็นคนที่โลภจัดเห็นแก่ได้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

เส้นเลือดสมองอุดตัน ทำให้สมองถูกทำลาย
แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือเป็นเพราะบาปกรรมแต่หนหลัง ป้าสมจิตเกิดอาการวูบเป็นลมล้มลงในห้องน้ำขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงหมอสีหราชโดยที่ไม่ใครรู้ มารู้อีกทีก็เห็นป้าสลบไปแล้ว สมองขาดออกซิเจนนานพอสมควร ทำให้สมองบางส่วนถูกทำลาย ไม่สามารถกู้ฟื้นคืนกลับมาได้  ข่าวว่าตอนแรกอาการหนักมาก แม้จะรอดตายมาได้แต่ก็มีอาการกึ่งอัมพาตถึงกับหน้าเบี้ยวไปทั้งแถบ ช่วงนั้นตระกูลจักรราวีแตกตื่นกันมากถึงขนาดมีการโยกย้ายทรัพย์สินจำนวนมากออกไปไว้ต่างประเทศ
ป้าควบคุมการทรงตัวไม่ได้ ถ้าเดินเองจะล้มตลอด ที่น่าเป็นห่วงคือแกจำใครไม่ได้เลย เวลาลูกๆไปเยี่ยม แกยังถามว่าเป็นใครกัน หน้าตาสวยดีจัง

สมองน้อยหรือ Cerebelum อยู่ใต้สมองใหญ่
ผลการตรวจสมองด้วยคลื่นแม่เหล็กหรือ
MRI และการฉีดสีดูเส้นเลือดสมองของป้า พบว่าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงสมองน้อยด้านขวาตีบไปประมาณ 70 % ทำให้เนื้อสมองบริเวณนั้นตายสนิท
ป้ายังคงต้องทำกายกาพบำบัดอีกนานหลายเดือน ถ้าป้าเลิกสูบบุหรี่ และเลิกเหล้าได้เด็ดขาด ก็คงจะแค่พิการแต่ไม่ถึงกับเสียชีวิต ก่อนหน้านี้ป้าจะเครียดจัดเรื่องมรดกของลุง ทำให้ป้าสูบบุหรี่จัดแบบมวนต่อมวน วันละ 2-3 ซอง ทั้งๆที่ป้าเป็นทั้งเบาหวานและความดันโลหิตสูง จึงน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ป้าเป็นโรคเส้นเลือดสมองอุดตัน บางครั้งที่ป้าพอจะสื่อสารได้ ก็จะรีบจัดแจงเรื่องมรดกกัน โดยสิรินเทพได้เริ่มเข้าไปพูดคุยและตีสนิทกับป้ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพื่อหาทางเจรจาตกลงกันเรื่องมรดกของลุง
ห้องโรยัลสวีท Royal Suite 255 ตร.ม.รพ.ศิริราชปิยมหาราชการรุณย์
ปกติระบบการรักษาความปลอดภัยของลุงที่ชั้น 16 ก็มีความเข้มงวดมากอยู่แล้ว มีทั้งทหาร ตำรวจ และ นักสืบ เข้า ออก วันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 1,000 นาย และ ยิ่งเมื่อป้าป่วยและมานอนชั้น 16 เหมือนลุง ก็มีการเพิ่มเวรยามเป็นสองเท่าตัว โดยที่ทีมองครักษ์ของลุง และป้าจะเป็นคนละชุดกัน รวมไปถึงทีมแพทย์ที่ทำการรักษาด้วย โดยลุงกับป้าแยกพักกันอยู่คนละห้องหมอส่วนใหญ่ที่รักษาลุงจะเป็นหมอจากสีหราช และมีหมอจากบ้านลุงด้วย
หมอยงชัย นิละนนท์
แต่ป้ามีทีมหมอจากที่อื่นเป็นตัวหลัก โดยมีหมอยงชัย นิละนนท์ เป็นตัวหลักดูแลป้าด้านสมองโดยเฉพาะ ที่ตึกแห่งนี้ จะมีการแบ่งลิฟท์หลายตัว
ตัวลิฟท์ด้านข้างที่ขึ้นไปถึงชั้นของลุงได้จะสงวนไว้ให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น การเข้า-ออก ขึ้น-ลง ลิฟท์ จะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมอย่างเข้มงวด และต้องมีการถ่ายรูปผู้เข้าออกเอาไว้ด้วย

ท่าเทียบเรือโรงพยาบาลศิริราช
ที่ท่าเรือสีหราช ก็จะมีทีมมนุษย์กบมาคอยดูแลความปลอดภัยของลุงกันอีกชุดใหญ่ ข่าวว่าหลังจากหญิงเล็กเลิกกับหมอแว่นไชชอนแล้วก็มีคู่ควงคนใหม่ทีแรกเป็นทหารอากาศ คนที่เดินนำหน้าหญิงเล็กตอนที่เธอนั่งรถเข็นออกทีวี ต่อมาเธอก็ไปคว้าหนุ่มมนุษย์กบที่เป็นหัวหน้าชุดลาดตระเวน ที่หล่อขั้นเทพ แถมมีดีกรีจบจากเมืองนอก
เวลาที่หญิงเล็กมาเยี่ยมลุงทีไร ทุกคนก็จะต้องคอยมาบริการเอาใจแกทุกเรื่อง เพราะใครๆก็รู้ว่าจุลาพองเป็นคนเอาใจยาก ออกจะงี่เง่าขนานแท้ เธอป่วยเป็นทั้งโรคลมชักและเป็นโรคอารมณ์สองขั้วหรือคุ้มดีคุ้มร้าย และมีอาการซึมเศร้า บางทีก็ทำเหมือนเป็นคนป่วยต้องนั่งรถเข็นเพราะไม่อยากเดิน และเป็นโรคกลัวแสงเพราะผิวคล้ำง่าย เป็นคนประเภทบอบบางแต่ไม่น่ารัก เวลาหญิงเล็กจะไปไหนมาไหน แทนที่เธอจะหาทางหลบแสงแดดโดยทาครีมกันแดด หรือยอมโดนแดดบ้าง แต่เธอกลับให้เจ้าหน้าที่สั่งปิดถนนให้ขบวนรถของเธอได้วิ่งไปตามทางที่เธอจะได้ไม่โดนแดด

ช่องว่างรัดทำมะนวย
ว่าด้วยผู้สืบบัลลังก์


รัดทำมะนวย 2550  ข้อที่ 23 บอกว่าถ้าลุงตาย แม้ว่าจะได้แต่งตั้งเสี่ยเป็นทายาท แต่ก็ต้องให้ครม.แจ้งประธานรัฐสภาเพื่อเรียกประชุมรัฐสภาแล้วให้ประธานรัฐสภาเชิญทายาทขึ้นนั่งบัลลังก์ คือเสี่ยยังไม่อาจขึ้นนั่งบัลลังก์ทันที จะต้องรอกระบวนการทางคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเสียก่อน

นายกยิ่งลักษณ์รดน้ำสงกรานต์ พล.อ.เปรม 26 เม.ย.2555
โดยข้อที่
24 ให้หัวหน้าที่ปรึกษาของลุงว่าราชการแทนไปก่อนโดยมิได้กำหนดระยะเวลาในการประกาศแต่งตั้งผู้นั่งบัลลังก์ จึงขัดกับระเบียบการสืบทอดอำนาจ 2467 ข้อที่ 6 ซึ่งกำหนดให้ทายาทได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ทันทีที่ประธานถึงแก่กรรม โดยไม่ต้องมีประกาศเชิญและขั้นตอนใดๆทั้งสิ้น
 รัดทำมะนวย ข้อที่ 20 ยังกำหนดว่า ถ้าลุงไปต่างประเทศ หรือบริหารงานไม่ได้และไม่ได้แต่งตั้งให้ใครให้ว่าราชการแทน หรือกรณีทายาทยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็ให้ประธานที่ปรึกษาซึ่งก็คือเปรมิกาเป็นคนว่าราชการแทนไปก่อน แต่ระเบียบโบราณข้อที่ 15 เขียนว่า ถ้าทายาทอายุไม่ถึง 20 ปี ก็ต้องให้เสนาบดีร่วมกันเลือกเจ้านายที่เป็นเชื้อเจ้าขึ้นว่าราชการแทน

งานป่าเล็กในเมืองใหญ่ 17 สค. 2555
รัดทำมะนวยข้อที่
23 ตอนท้ายได้เขียนไว้ว่า ถ้าเจ้าตายและไม่ได้แต่งตั้งทายาทไว้ ก็ให้คณะที่ปรึกษาเสนอชื่อทายาทต่อครม.เพื่อเสนอต่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบ จะเสนอชื่อลูกสาวก็ได้ เมื่อรัฐสภาเห็นชอบแล้ว ให้ประธานรัฐสภาเชิญขึ้นนั่งบัลลังก์

แต่กฎการสืบอำนาจโบราณข้อที่ 17 ห้ามผู้หญิงขึ้นนั่งบัลลังก์เด็ดขาด

วชิราลงกรณ์และสิรินธรเสด็จเนเธอร์แลนด์ 23 เมย.2556
กฏหมายเก่าตั้งแต่สมัยรามาคนที่
6 ข้อที่ 20 กำหนดเรื่องการแก้ไขไว้ว่าให้เจ้าจัดประชุมที่ปรึกษาทั้งหมด ให้เจ้าเป็นคนเสนอแก้ไข และต้องมีคณะที่ปรึกษาไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 เห็นด้วย ถ้ามีผู้เห็นด้วยไม่ถึง 2 ใน 3  ก็ไม่ให้แก้ไข  แต่รัดทำมะนวย ข้อที่ 22 กำหนดให้การแก้ไขกฎหมายการสืบทอดบัลลังก์เป็นอำนาจของเจ้าแต่เพียงผู้เดียว จะแก้ไขอย่างไรก็ได้แล้วแต่เจ้า
ดังนั้นในเมื่อไทยแลนด์ถือว่ารัดทำมะนวยเป็นกฎหมายสูงสุดและศาลรัดทำมะนวยจะตีความอย่างไรก็ได้แล้วแต่คำบัญชาของเปรมิกาและหญิงกลาง จึงเป็นไปได้มากว่าสิรินเทพสามารถคุมเกมกำหนดผู้สืบบัลลังก์ได้ไม่ยากนัก แต่ต้องมีการสร้างสถานการณ์ให้ดูว่าหญิงกลางต้องขึ้นนั่งบัลลังก์ด้วยความจำเป็นที่เธอปฏิเสธไม่ได้ เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาได้

ย้ายฐานบัญชาการ
เพื่อเตรียมศึกใหญ่


เสด็จประทับหัวหิน 1 สค. 2556
เป็นธรรมเนียมตอแหลแบบไทยๆที่ว่าพวกเจ้าพวกนายจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการขัดแย้งทางการเมือง จึงต้องมีการย้ายสำมะโนครัวชั่วคราวให้อยู่ห่างจุดปะทะหรือสถานที่เกิดเหตุ ทำนองว่ากรูม่ายรู้กรูป่วย กรูม่ายเห็น เพราะกรูไม่ได้อยู่แถวนั้น



สิริกิติ์ระหว่างย้ายไปอยู่วังหัวหิน
ลุงและป้าจึงย้ายออกจากโรงหมอสีหราชมาประจำสถานีรบที่วังหัวหินใกล้ค่ายบัญชาการหน่วยรบพิเศษ ตชด. ทำเป็นว่าต้องการมาพักผ่อนรับโอโซนชายทะเล จะได้หายไวๆ เพื่อกลับไปเป็นขวัญกำลังใจแก่ราษฎรไทยต่อไป  แต่ภาวะสุขภาพของสองผู้ชราก็ยากที่จะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้ดังเดิม
ป้าสมจิตผู้มีบทบาทสั่งการในการเผด็จศึกภาคสนามจึงต้องถูกปลดประจำการไปได้ปริยาย ซึ่งมีผลสะเทือนอย่างมากต่อความมั่นคงของตระกูลจักรราวี ที่อาศัยป้าเป็นแม่ทัพใหญ่มาตลอดนับตั้งแต่สมัยรัฐบาลเปรมิกาเป็นต้นมา 

ภูมิพล กล่าวขอบใจ 5 ธค. 2556
ส่วนลุงสมชายนั้น แม้อาการจะดีกว่าป้าแต่ก็ดูอ่อนระโหยโรยแรงแก่หงอมแบบผิดหูผิดตาเหมือนม้าแก่ที่สมควรต้องปลดประจำการได้แล้ว แต่ลุงก็ยังดื้อด้านดันทุรังนั่งเก้าอี้ต่อไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัย ก่อนหน้านี้ ป้ากับเปรมิกาจะเป็นผู้กำกับดูแลความมั่นคงของวงศ์ตระกูลโดยอาศัยลุงเป็นผู้อำนวยการสูงสุดอีกชั้นหนึ่ง ส่วนเสี่ยอูผู้เป็นทายาทหมายเลขหนึ่งก็แทบจะไม่มีบทบาทอะไรเลย เพราะมัวแต่เป็นเพลย์บอยที่ติดโรคร้ายต้องถ่ายเลือดและฉีดภูมิคุ้มกันอย่างสม่ำเสมอ ถึงกับมีข่าวว่า พวกที่ปรึกษาทั้งหลายคิดการณ์ใหญ่ที่จะเปลี่ยนตัวทายาท โดยเอาสิรินเทพขึ้นนั่งบัลลังก์แทน
แต่เมื่อป้าต้องวางมือก็เป็นจังหวะที่เสี่ยอูต้องเข้ามาแบ่งเบาภารกิจของตระกูลมากกว่าเดิม ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะนำไปสู่การชิงบัลลังก์ในช่วงที่กำลังจะต้องมีการสืบทอดอำนาจของตระกูล

เปรมเข้าผ่าตัดปอด ที่รพ.พระมงกุฏ กย.2556
ขณะที่เปรมิกาผู้เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาก็เกิดมามีปัญหาสุขภาพ ต้องตัดปอดด้านขวาบนไปกลีบหนึ่ง

สันนิษฐานว่าคงเป็นมะเร็งปอดที่มักจะมีการแพร่กระจายเป็นปกติอยู่แล้ว เท่ากับว่าเปรมิกาเองก็คงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก แต่อายุในวัยเก้าสิบกว่าๆ แม้ว่าจะเป็นมะเร็งหรือไม่ ก็ต้องจากโลกนี้ไปในไม่ช้าอยู่ดี ความกระตือรือล้นกระฉับกระเฉงในการปกป้องตระกูลจักรราวีจึงต้องลดน้อยถอยลงไปเป็นธรรมดาตามสภาพของสังขาร และต้องถ่ายทอดอำนาจไปยังคนรุ่นต่อไป ซึ่งก็คือสุรายึด ณ เขายายเที่ยง สงค์ฟันดำ และพลพรรคแมงสาบ แม้ว่าเสี่ยอูจะช่วงชิงโอกาสที่ลุงและป้าต้องมาอยู่ที่วังหัวหินห่างไกลจากพวกลูกน้องเก่าบรรดาขันทีและที่ปรึกษาทั้งหลาย แต่เสี่ยก็ไม่อาจจะสร้างบารมีได้เทียบเท่าหญิงกลางผู้ขยันทำคะแนนทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ

ว่าที่ร.10 หรือ รอเสียบ

อานันท์ เปรมและสิทธิ์ ผู้เป็นห่วงเรื่องรัชทายาท
ลุงสมชายเริ่มวิตกถึงทายาทที่จะมาสืบทอดบัลลังก์ ลุงรู้ดีว่าบรรดาที่ปรึกษาก็เป็นห่วงกันมากถ้าบัลลังก์ทองต้องตกแก่เสี่ยอูผู้เป็นทายาทหมายเลขหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์กับรักสินผู้เป็นอริราชศัตรูของตระกูลจักรราวี ประกอบกับสิรินเทพก็เริ่มมีบทบาทที่เอาธุระในภารกิจของตระกูลทั้งด้านการเมืองและดูแลด้านผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูลทั้งหมด ทำให้ทั้งลุงและป้ามีความไว้เนื้อเชื่อใจสิรินเทพมากขึ้นทุกที ขณะที่เสี่ยอูไม่ได้ให้ความเอาใจใส่ในเรื่องความมั่นคงและกิจการของครอบครัวเท่าที่ควร เสี่ยอูก็คงเป็นหนุ่มเสเพลไม่เลิกแม้อายุจะเข้าวัยเกษียณ
60 ปีแล้ว
สมเด็จพระเทพบรมราชกุมารี
ระยะหลังมานี้ สิรินเทพขยันขันแข็งมากมาเฝ้าดูแลลุงแทบทุกวัน สิรินเทพมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับบรรดาที่ปรึกษาคนสำคัญของลุง และรู้ดีว่ามีเพียงลุงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้พวกตนได้ครองอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง รวมทั้งการทำลายล้างศัตรูคนเดียวกัน เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของ ทุกคนที่ร่วมรับใช้ตระกูลจักรราวี
บรรดาคนรอบข้างพยายามทำทุกวิธีทางให้ลุงเปลี่ยนใจมามอบบัลลังก์ให้สิรินเทพ  ขณะที่สิรินเทพก็เดินสายหาสมัครพรรคพวกสร้างอิทธิพลบารมีไปในวงการทั้งภาครัฐและเอกชน โดยจะเจริญรอยตามลุงในการบากบั่นสร้างบารมีให้ราษฎรแซ่ซ้องสดุดีอย่างหนักหน่วงและเข้มข้นมากขึ้นไปอีก

เสด็จเผาศพน้องโบว์ 13 ตค. 2551
ในช่วงนี้จึงต้องรักษาชีวิตของลุงไว้ให้ยาวนานที่สุดเพื่อรอเวลาจนกว่าสิรินเทพหรือเปรมิกาจะมีบารมีพอ เพราะถ้าลุงเกิดชีวิตแล้วให้ป้าสมจิตขึ้นรักษาการณ์ก็คงไม่เป็นผลดี เพราะภาพลักษณ์ของป้าไม่ดีเลย ในกรณีที่ลุงถึงขั้นทุพลภาพถาวรก็อาจต้องตั้งผู้สำเร็จราชการโดยมีสิรินเทพและเปรมิกาคุมอยู่เบื้องหลัง

สิรินธรเสด็จรพ.จุฬาช่วงเสื้อแดงชุมนุม 1 พค. 2553
หลังจากที่ลุงต้องล้มหมอนนอนสื่อจนกลายป็นคนพิการอย่างถาวร แต่ลุงก็ยังคงดื้อดึงไม่ยอมโอนตำแหน่งมาให้สิรินเทพ ทั้งๆที่ทีมที่ปรึกษาลงความเห็นกันมานานแล้ว ว่าจะต้องหาทางผลักดันให้สิรินเทพได้นั่งเก้าอี้ประธานสูงสุด เพราะสิรินเทพมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่าเสี่ยอูหลายอย่าง เสี่ยมีปัญหาเรื่องโรคร้ายประจำตัวที่ต้องได้รับดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด การทดลองใช้วัคซินเท่าที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยดีผล มิหนำซ้ำก็ยังทำตัวเป็นเพลย์บอยไม่เปลี่ยนแปลง ไม่สนใจเมียที่มีประวัติเป็นแค่นักร้องคาเฟ่ที่มีวีดีโอโป๊เปลือยริมสระน้ำรับประกันคุณภาพ ปังปอนที่เป็นทายาทลำดับสองก็มีอาการสมองทึบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่ได้มีการดูแลรักษาอย่างจริงจัง เรียกได้ว่าทั้งเสี่ยและปังปอนเป็นแค่ตัวถ่วงหรือเป็นความอัปยศของตระกูลมากกว่า

นายกยิ่งลักษณ์ถวายเงิน 47 ล้านบาทในวันเกิด 27 กค.2556
ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยยังมีใจโน้มเอียงไปทางรักสิน เพราะอย่างน้อยเสี่ยก็ไม่เคยทำร้ายรักสินและพรรคพวกเลย ยิ่งมาในระยะหลังๆ กลับแสดงอาการเป็นห่วงรัฐบาลยิ่งฮักอยู่เนืองๆ มีการให้ไดอารี่ปี 2557 แก่นายกยิ่งฮัก ขณะที่หญิงกลางต้องส่งตัวแทนไปให้ของขวัญม็อบนกหวีดที่ได้รับบาเจ็บถึงโรงพยาบาล   ในขณะที่เสี่ยเองเริ่มเห็นท่าทีใต่ระดับขึ้นมาเทียบชั้นของสิรินเทพและเครือข่ายที่ปรึกษามากขึ้นเรื่อยๆ

ร่วมพิธีครองราชย์กษัตริย์เนเธอร์แลนด์ 30 เม.ย. 2556
เมื่อลุงเริ่มหมดสภาพและป้าก็เหมือนหมดอายุ พี่กับน้อง ก็ไม่มีทางเลือก เพราะไม่มีตัวกันชน ไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่คอยห้ามปราม และไม่จำเป็นต้องฟังใครอีกแล้ว คนที่เป็นพี่ชายถือความชอบธรรมตามหลักการและตามกฎของตระกูล แต่น้องสาวถือเอาความมั่นคงของตระกูลอยู่เหนือสิ่งอื่นใด มันก็คงคล้ายกับสมัยที่ลุงสมชายยังเป็นวัยรุ่น ที่ต้องกำจัดอานานผู้เป็นพี่ชายเพื่อความมั่นคงดำรงอยู่ของวงศ์ตระกูลเช่นเดียวกัน มันจึงเป็นเหมือนกงกำกงเกวียน หรือกรรมเก่าตามมาสนอง 


ระบอบจักรราวีที่ไม่มีทางออก

นายกยิ่งลักษณ์ถวายพระพรที่วังไกลกังวล หัวหิน 5 ธค. 2556
แม้ว่าจะมีปัญหาการแย่งชิงเพื่อนั่งบัลลังก์ระหว่างพี่น้อง แต่ปัญหาสำคัญก็คือ ต้องรีบหาทางโค่นล้มระบอบรักสินที่ถือเป็นหอกข้างแคร่หรือเสี้ยนหนามของตระกูลมหิดอน ลุงได้มีโองการให้หญิงกลางสิรินเทพและเปรมิการวมทั้งสุรายึด ณ เขายายเที่ยงรีบระดมพลทุกส่วน เพื่อหาทางโค่นพวกรักสินให้สิ้นซาก ไม่ให้ราษฎรผู้ไม่รักดีได้มีโอกาสเลือกตั้งอีกต่อไปแล้ว


สส.ประชาธิปัตย์นำมวลชนเดินไปสภา 7 ส.ค. 2556
ให้แก๊งค์แมงสาบหาทางทำลายสภา ส่วนภายนอกสภาให้หาเรื่องปิดถนนหนทาง แต่ตัวสำคัญก็คือบรรดาตุลากวยทั้งหลายต้องดาหน้าเล่นงานรัฐบาลเครือข่ายรักสิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโครงการสร้างประเทศหรือเกื้อหนุนราษฎรที่เป็นการแข่งบารมีกับระบอบจักราวี รวมทั้งการบังอาจแก้กฎหมายของลุงที่ใช้เล่นงานฝ่ายประชาธิปไตย
กองทัพปลดแอกฯไปขอนายกพระราชทาน 17 มิ.ย. 2556
สุรายึดอาศัยความเป็นลูกอดีตผู้บัญชา การกองทัพ ปลดแอก เดินสายสร้างฐานมวลชนจากอดีตกองทัพแดงที่เคยเข้าป่า คราวนี้มากันในนามกองทัพสวมแอกรักษาพระอวย ผสมโรงกับพวกหน้ากากขาวเพื่อสร้างความแปลกใหม่


ประชาธิปัตย์ขัดขวางการแก้รัดทำมะนวยในสภา 20สค.2556
ส่วนแก๊งค์แมงสาบก็หาเรื่องเตะถ่วงวิวาทด่าทอทะเลาะเบาะแว้งให้ดูวุ่นวายเพื่อทำให้สภากลายสภาพเป็นตลาดสดลดคุณค่าจนราษฎรเกิดความเบื่อหน่ายเอือมระอาให้จงได้

อภิสิทธิ์ว่านายกยิ่งลักษณ์เป็นอีโง่ 15 กย.2556 ดอนเมือง
ส่วนภายนอกสภาจัดเวทีจำอวดสัญจรเดินหน้าเล่าความเท็จ และจ้างพวกนักเลงอันธพาลหาเรื่องปิดถนน ปลุกปั่นชาวสวนยางว่ารัฐบาลยิ่งฮักรักแต่ชาวนา เอาเงินของแผ่นดินไปแจกจ่ายให้ชาวนาหมดแล้ว ทั้งเรื่องของช่องทางหากินและแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยถูก 


เสรี วงษ์มณฑา...สามแสนเสียงของกรุงเทพ
มีค่ากว่า 15 ล้านเสียง ..สวนลุม  8 พย. 2554
เอาใจเฉพาะคนจน ทุ่มเทความช่วยเหลือให้เฉพาะพวกคนบ้านนอก เแต่ทอดทิ้งคนบางกอก เอาใจคนยากไร้แต่ไม่เห็นพวกใจหมอที่เปิดคลีนิค พวกธนาคารที่หากินกับการปล่อยกู้รวมทั้งพวกปล่อยเงินกู้นอกระบบ พวกขายยาบ้า พวกค้าหวยเถื่อน


  

เฉลิมพล เอกอุระ อ้างการกู้ 2.2ล้านล้าน
ขัดเศรษฐกิจพอเพียง
พวกรักสินมันเอาแต่คิดโครงการใหญ่ๆ ที่ทำให้ประชาชนต้องเป็นหนี้ท่วมหัวไปถึงลูกหลาน ขัดหลักเศรษฐพอเพียงของลุงสมชาย คนไทยควรอยู่แบบเดิมๆ เหมือนสมัยพ่อแม่ปู่ย่าตายายก็มีความสุขกันดีอยู่แล้ว แบบละครเรื่องสี่แผ่นดิน ไม่ควรไปคิดร่ำรวยให้มันเกิดเป็นกิเลสตัณหาเปล่าๆ ถ้าพวกรักสินมันอยากสร้างรถไฟความเร็วสูง ทำไมมันไม่เอาเงินของมันไปสร้างเอง แบบนี้พวกมันต้องเจอตุลากวยความเลวสูง ต้องหาเรื่องเอาพวกมันเข้าคุก ข้อหาวางแผนเพื่อการทุจริตในอนาคต

สมรังสีนำประท้วงในพนมเป็ญให้เลือกตั้งใหม่ 15 ธค.2556
รัฐบาลเมกาก็ไม่ค่อยชอบพวกรักสิน แม้ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพราะรักสินเป็นต้วเชื่อมหมู่บ้านอาเชี่ยน กลายเป็นเครือข่ายอินโดไชน่าของเมืองจีน กลายเป็นกลุ่มต่อรองที่ทำให้เมกาเสียประโยชน์ ถ้าหมู่บ้านอาเชียนร่วมมือกันดี เมกาก็จะเข้ามากอบโกยลำบาก ทั้งเรื่องแก๊สเรื่องน้ำมันและทรัพยากรอื่นๆอีกมากมาย ที่สำคัญก็คือถ้าเกิดความสงบสันติสุขแล้วเมกาจะเอาอาวุธยุทโธปกรณ์ไปขายให้ใคร ซีไอเอที่หากินกับการขายเฮโรอินและยาเสพติดก็คงหากินได้ลำบากมาก รัฐบาลวอชิงตันจึงไม่ขัดขวางถ้าพวกของลุงสมชายจะล้มระบอบรักสินเหมือนที่ช่วยนายโสมเรืองสีสร้างความวุ่นวายในเมืองเขมร ถือเป็นการทำลายศัสตรูทั้งในเขมรและไทยแลนด์ไปพร้อมๆกัน


ยุทธการหลอกให้เข้าซอย

แล้วรุมกระทืบ



ยิ่งลักษณ์ก้มกราบในงานสันนิบาต 7 ธค. 2556
เครือข่ายลุงสมชายเริ่มรู้ถึงความเสื่อมทรุดทั้งทางอำนาจและความศรัทธาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จากความพ่ายในการเลือกตั้งต่อระบอบรักสินมาโดยตลอดไม่ว่าจะวางกติกาไว้อย่างไร ทั้งเอาเปรียบและใช้กลยุทธสารพัดก็ไม่เคยเอาชนะได้ ทั้งๆที่ได้ทุ่มเทการโจมตีไปที่ตัวนายกรักสินตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปีกลางปี 2548 เป็นต้นมา

งานเลี้ยงวันกองทัพบก 21 มค. 2556
แม้ว่านายกยิ่งฮักจะพยายามปรับท่าทีเป็นมิตรต่อเครือข่ายของลุงสมชายและขุนศึกขุนทหาร โดยไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องผลประโยชน์และตำแหน่งหน้าที่ในกองทัพและให้เกียรติทั้งลุงสมชายและครอบครัวตลอดจนบรรดาที่ปรึกษาที่มีเปรมิการเป็นหัวเรือใหญ่ แต่นโยบายเอาใจราษฎรอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู มันทำให้ราษฎรทั้งรักและศรัทธาในระบอบรักสิน จนทำให้อดีตกาลอันรุ่งโรจน์ของลุงสมชายกลายเป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ที่ได้แต่เอาไว้ฉายออกทีวีเพื่อที่ผู้ชมรายการจะได้มีเวลาหันไปทำธุระอย่างอื่น

ชาวนาต่างพอใจนโยบายจำนำข้าวราคาสูงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์
สิ่งที่ลุงทนไม่ได้คือนโยบายจำนำข้าวในราคาสูงลิ่วที่ทำให้ชาวนาทั่วประเทศร่ำรวยขึ้นในพริบตา มันทำให้ระบอบรักสินกลายเป็นเทพเจ้าองค์ใหม่ของชาวนาและคนรากหญ้า  ฟางเส้นสุดท้ายที่ลุงยอมไม่ได้คือการแก้ไขรัดทำมะนวยให้ส.ว.ทั้งหมดต้องมาจากการเลือกตั้งโดยราษฎร ซึ่งถือเป็นการทวงอำนาจคืนไปจากลุงอย่างไม่ไว้หน้า

ชาวสวนยางภาคใต้ประท้วงปิดถนน 23 สค. 2556
แก๊งค์แมงสาบได้โหมสร้างความแตกแยกและเกลียดชังระหว่างชาวสวนยางกับชาวนา คนปักษ์ใต้กับคนอิสาน คนเมืองหลวงกับคนต่างจังหวัด รวมทั้งรอการโหมกระพือกระแสทวงพื้นที่รอบเขาพระวิหาร แต่รัฐบาลยิ่งฮักก็หาทางออกได้ดีพอสมควร
ม็อบข้างถนนของแก๊งค์แมงสาบที่ชุมนุมปิดถนนทางภาคใต้ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรเพราะไม่ใช่เมืองหลวง

 

ประยุทธ์ ศิริพานิชย์เสนอนิรโทษทุกฝ่ายเข้าสภา31ตค.2556
จึงได้มีการวางหมากล่อให้รัฐบาลเข้าซอยเปลี่ยวเพื่อรุมสกรัมด้วยการเสนอให้ออกกฎหมายให้อภัยโทษทั้งหมดเพื่อให้เลิกแล้วต่อกัน โดยเครือข่ายของลุงรับปากกับรักสินว่าขอให้ลืมความหลังในอดีตทั้งหมดเพื่อจะได้ตั้งต้นกันใหม่ ให้มันสดใสแบบเซทซีโรหรือเริ่มจากศูนย์ ทั้งขอให้รักสินสั่งเลิกขบวนการเสื้อสีแดงทั้งหมด ให้ประเทศไม่มีความขัดแย้งระหว่างเหลืองกับแดงอีกต่อไป โดยเครือข่ายของลุงรับปากว่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ให้ลืมข้อบาดหมางที่ผ่านมาให้หมด  รับรองว่างานนี้มีแต่วินวิน ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย จะไม่มีใครคัดค้านเป็นอันขาด ทางโล่งสะดวกยิ่งกว่ามอเตอร์ไปชลบุรีเสียอีก ลุงสมชายขอเอาชื่อเป็นประกัน ขอให้เห็นแก่ลุงและป้าสักครั้ง ครั้งนี้ลุงสาบานได้เลยว่าลุงไม่ได้หลอกล่อหรือหลอกลวงเหมือนเมื่อครั้งก่อนๆอีกแล้ว
ม็อบนกหวีดต่อต้านนิรโทษกรรมเหมาเข่ง  20 พย. 2556
เครือข่ายรักสินซึ่งหวังจะประนี ประนอม รอมชอมมาตลอด จึงกลายเป็นปลาที่กระโดด หุบเหยื่อ พลาสติคที่ลุงสมชายเกี่ยวติดมากับเบ็ดอันใหญ่  เพราะเมื่อฝ่ายรักสินเสนอออกกฎหมายยกโทษแก่ทุกฝ่าย กลายเป็นว่าเครือข่ายรักสินกลับตกเป็นจำเลยที่โดนรุมสกรัมจากทุกฝ่ายทันที กลายเป็นสหบาทาสามัคคี เครือข่ายของลุงสมชายที่เคยรับปากว่าจะให้ความร่วมมือกลับหันมารุมถล่มโดยพร้อมเพรียงกัน ด้วยข้อกล่าวหาว่าออกกฎหมายล้างผิดให้คนโกง พวกเสื้อสีแดงหลายคนก็ประณามว่าเป็นการทรยศหักหลังข้ามศพวีรชนเพียงเพื่อเอาใจนายใหญ่จากดูไบ

ม็อบนกหวีดชูรูปกษัตริย์ยึดศูนย์ราชการ  9 ธค.2556
ในเมื่อเจตนาดีถูกแปรเปลี่ยนให้กลายเป็นความฉ้อฉลสอดไส้ที่ต้องคัดค้านและต่อต้านกันสุดตัว กลายเป็นชนวนจุดระเบิดที่เตรียมไว้นานแล้ว ฝ่ายที่เคยเห็นดีเห็นงามก็ทำเงียบเฉยหรือกระทั่งพลิกลิ้นเพราะไม่อาจต้านกระแสการต่อต้านจากรอบด้าน

กปปส..ประกาศยึดอำนาจรัฐ 29 พย. 2556
รัฐบาลยิ่งฮักกลายสภาพเป็นพื้นที่กระสุนตก ที่ต้องถอยสุดซอย ยกเลิกการอภัยโทษทุกชนิดทุกรูปแบบ ในเมื่อหวังดีแต่กลายเป็นร้าย ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์แต่ได้บาป ก็ไม่ต้องไปทำอะไรมันอีกต่อไปแล้ว ปล่อยให้กระบวนการตุลากวยตาชั่งเอียงได้เดินหน้าห่ำหั่นฝ่ายประชาธิปไตยต่อไปตามสะดวก


ประชาธิปัตย์เปิดชุมนุมล้มรัฐบาลที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เมื่อแมงสาบเทือกสามารถจุดกระแสความไม่พอใจได้สำเร็จแล้ว ก็ต้องตามไล่ล่าราวีเผด็จศึกให้สิ้นซากตามแผนเพื่อการขุดรากถอนโคนระบอบรักสิน  พลพรรคแมงสาบและบรรดาเครือข่ายของลุงภายใต้บัญชาการของแม่ทัพหญิงสิรินเทพว่าที่ทายาทคนใหม่จึงระดมสรรพกำลังทุกสำนักตักศิลา ทั้งหมอความ หมอรักษาคน นักเรียนนักศึกษา ข้าราชการ รวมทั้งภาคเอกชนจากทุกส่วนงาน


ม็อบนกหวีดยึดศูนย์ราชการ 6 ธค. 2556
แม้ว่ารัฐบาลจะถอยจนสุดทาง แต่เนื่องจากเป็นปลายรัชกาล จะปล่อยให้เป็นหอกข้างแคร่ต่อไปอีกไม่ได้ ขืนปล่อยไว้ก็จะเป็นอันตรายต่อรัชกาลองค์ต่อไปเป็นแน่ จึงต้องปิดประตูไม่ให้ระบอบรักสินกลับมาอีกด้วยการล้มเลิกระบอบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งของราษฎร และหันกลับไปใช้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์แบบดั้งเดิมที่ราษฎรเป็นแค่ไพร่ที่ไม่มีอำนาจในการปกครอง เพราะราษฎรไทยส่วนใหญ่มันไม่จงรักภักดี แต่มันไปฝักใฝ่ไปหลงไหลศัตรูของวงศ์จักรราวี 


ม็อบนกหวีดถือธงชาติและธงภปร. บุกทำเนียบ 9 ธค.2556
ลุงสมชายให้ประกาศใช้ชื่อของลุงได้อย่างเต็มที่ ให้สวมเสื้อที่มีรูปธงชาติและหมายเลข 9  พร้อมทั้งข้อความว่า กูคือคนของพระราชา ส่วนบนเวทีชุมนุมก็ให้ป่าวประกาศออกไปว่า ใครที่รักลุงสมชายก็ให้มาร่วมชุมนุมไล่รัฐบาล ส่วนใครที่ไม่รักลุงสมชายก็ให้ไปอยู่กับรักสินที่ดูไบให้หมด มีการกระพือข่าวว่าเครือข่ายรักสินกำลังขับไล่ลุงสมชายออกนอกประเทศ ขอให้ราษฎรไทยออกมาช่วยปกป้องลุงสมชายด้วยชีวิต

พระเทพให้รวิจิตร์ สุวรรณบบผาเยี่ยมม็อบ ที่จุฬา 3ธค.2556
งานนี้แมงสาบเทือกรับงานโดยตรงจากเปรมิกา ภายใต้การอำนวยการของสิรินเทพ โดยมีนายทหารใหญ่สามคนคอยอำนวยความสะดวก ได้แก่ ปราวิดอดีตนายทหารเก่าที่เคยเป็นคนจัดการตั้งรัฐบาลมาร์คในค่ายทหารและมีน้องเป็นอดีตหัวหน้าตำรวจ คนต่อมาก็คืออนุพันธุ์ หัวหน้าทหารบกคนก่อนที่มีส่วนสั่งการสังหารคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 คนที่สามคือปรายึดหัวหน้าทหารบกคนปัจจุบันที่กำลังรอจังหวะเพราะต่างประเทศยังไม่ยอมรับการรัฐประหาร จึงต้องรอให้พวกปป.ชวยและตุลากวยลงดาบเล่นงานรัฐบาลไปก่อน ถ้ารัฐบาลยังขืนดื้อดึงทำตัวเป็นพวกหัวแข็งตายยาก จึงค่อยลากรถถังออกมา โดยข้ออ้างว่าต้องปกป้องศาลโกงๆของพวกตน


สุเทพ ประกาศยึดกรุงเทพ 13 มค. 2557   

งานนี้แก๊งค์แมงสาบได้ระดมพวกเสื้อเหลืองและสลิ่มในกรุงเทพ รวมทั้งการกะเกณฑ์ฐานเสียงและพวกรับจ้างจากภาคใต้ อ้างว่าต้องมาปกป้องลุงสมชาย
โดยได้จัดให้มีหัวหน้าทีมฝ่ายกำลังรบภาคสนามสองคนเพื่อสร้างเกมยึดกรุงเทพเขย่าขวัญประเทศไทย 



พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผบ.ทบ.
คนแรกเดอะสตาร์หรือดาวพอง ทำหน้าที่จัดหาหน่วยทหารพิเศษ คอยให้ความช่วยเหลือกองกำลังติดอาวุธ ทำตัวเหมือนชายชุดดำ คอยข่มขู่ตำรวจ ดาวพองได้จัดกำลังทหารนอกเครื่องแบบปนอยู่ในอยู่ม็อบนับพันคน ในนี้มีโรฮิงยาอพยพนับร้อยคน รวมทั้งคนงานพม่าและกัมพูชา 2-3000 คนที่แก๊งค์แมงสาบกะเกณฑ์เข้าร่วมขบวนม็อบนกหวีด ดาวพองวางแผนให้ยิงพวกแรงงานต่างชาติ แล้วโยนความผิดให้ตำรวจ


พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าฯฝ่ายความปลอดภัย
ฝ่ายคุมกำลังภาคสนามคนที่สองคืออัศวิน ขวางเมืองเป็นตำรวจเก่าคอยทำงานประสานกับหม่อมสุขุมพังทำหน้าที่ดูแลบรรดานักเลงอันธพาลและพวกมือปืนเพื่อทำร้ายตำรวจและประชาชนทั่วไปรวมทั้งให้ทำร้ายพวกม็อบด้วยกันเอง
ส่วนแก๊งค์แมงสาบก็ถือโอกาสผสมโรง ไม่ยอมลงแข่งขัน โดยอ้างว่ากติกาไม่เป็นธรรมเพราะมีการจ้างราษฎรมาลงคะแนน ดังนั้นจะต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด จะกี่ปีก็ช่าง เพื่อแก้กติกาโดยแมงสาบเทือกจะเป็นคนตั้งกรรมการขึ้นมาตั้งกติกากันใหม่ให้เรียบร้อยเสียก่อน
เพราะถ้าแก๊งค์แมงสาบลงแข่งก็คงมีแต่แพ้แน่นอน มาร์คที่เป็นหัวหน้าแก๊งค์แมงสาบเองก็โดนกลาโหมปลดจากทหารเพราะไปปลอมใบเกณฑ์ทหาร อาจไม่มีสิทธิ์ลงแข่งขันเพราะเคยถูกไล่ออกจากราชการจากการทำทุจริต

นายกยิ่งลักษณ์ ยุบสภา 9 ธค. 2556
รัฐบาลยิ่งฮักเริ่มรู้ทันแผนร้าย หลังจากถอนกฎหมายอภัยโทษออกมาหมดเกลี้ยงแล้ว ก็ให้ยุบสภา เพื่อพิสูจน์เสียงสนับสนุนจากราษฎร แต่แผนของสิรินเทพและเปรมิกามีมากกว่าการล้มรัฐบาลเพราะต้องการตั้งสภามหาชนเลียนแบบท่านฮิตเลอร์แห่งเบอร์ลินและมุสโสลินีแห่งกรุงโรม เพื่อการเปลี่ยนตัวผู้สืบบัลลังก์ทอง และสถาปนาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เหมือนสมัยพระเจ้าซาร์ของจักรวรรดิรัสเซีย งานนี้จึงต้องขุดรากถอนโคนระบอบรักสินรวมทั้งพวกที่ยังนิยมระบอบรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง จึงมีคำสั่งให้เดินหน้าลุยชนิดทุบหม้อข้าวเพื่อล้มระบอบเลือกตั้งให้หมดสิ้นไปจากเมืองไทยให้ถึงที่สุดแบบที่ไม่มีการถอยแม้แต่ก้าวเดียวเป็นอันขาด

สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ผู้มีบทบาทล้มการเลือกตั้ง
ที่ประชุมด้านยุทธศาสตร์หรือวอร์รูมของลุงสมชายที่มีสิรินเทพและเปรมิกาเป็นแม่ทัพใหญ่ ได้สั่งการให้ทุกองค์กรและทุกฝ่ายในสังกัด เดินหน้าถล่มรัฐบาล ให้กกต.ล้มการแข่งขันลงคะแนน ให้ปปช.และศาลรัดทำมะนวยหาเรื่องเล่นงานรัฐบาลในทุกเรื่องทุกกรณี

สุพจน์ ไข่มุกด์ตุลาการศาลรัดทำมะนวยเห็นว่า
ต้องหมดถนนลูกรังก่อนจึงค่อยสร้างรถไฟความเร็วสูง
ด้วยข้อหาร้ายแรงว่าเป็นกบฏที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง จะอ้างเรื่องถนนลูกรัง หรือเรื่องเสดทากิดพอเพียงก็ได้ทั้งนั้น ขอให้พิพากษาลงโทษฝ่ายรักสินให้ได้ก็แล้วกัน
หลังจากนั้นก็ให้ปรายึดนำทหารบกเข้าปล้นอำนาจโดยอ้างว่าต้องเคารพและทำตามคำตัดสินของศาลรัดทำมะนวย และศาลดีกวยของลุงสมชาย โดยใช้รถถังและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่อ้างว่าจะต้องขนมาร่วมงานสวนสนาม

ประยุทธ์และดาว์พงษ์ สองเสือทบ.ผู้มีบทบาทเตรียมยึดอำนาจ
เพราะข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปหรือปฏิสังขรณ์ ก็เพื่อเปิดทางให้มีการยึดอำนาจเพื่อเขียนรัดทำมะนวยใหม่
โดยอ้างว่านักการเมืองมันทั้งเลวและขี้โกงต้องโละนักการเมืองเก่าออกให้หมด อาจรวมทั้งแก๊งค์แมงสาบด้วย แล้วให้ตั้งตัวแทนมา100 คน เพื่อมาออกกติกากันใหม่ โดยทางทหาร จะคัดเลือกตัวแทน 40 คน แก๊งค์แมงสาบและม็อบนกหวีดให้ส่งมา 30คน เท่ากับพรรคเพื่อไทยแลนด์รวมทั้งเสื้อแดงที่ให้มีโควต้าส่งตัวแทนมาได้ 30 คน เพื่อมารวมกันเป็นสภาปฏิรูปตามแนวคิดของแมงสาบเทือกทุกประการ ทั้งนี้ให้รีบกระทำการตามแผนโดยเร็วที่สุดทันทีที่มีโอกาส
แต่ปัญหาก็คือว่า ราษฎรและคนทั่วไปทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัดต้องการการเลือกตั้งและประกาศจะปกป้องระบอบประชาธิปไตยให้ถึงที่สุด มีกระแสความตื่นตัวกระจายไปในหมู่คนชั้นกลางและปัญญาชนอย่างกว้างขวางในการประกาศต่อต้านการรัฐประหารและการใช้ความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ประชาชนชุมนุมจุดเทียนสนับสนุนการเลือกตั้ง 10มค.2557
ในขณะที่กระแสม็อบกบฏนกหวีดถดถอยลงทุกที จึงต้องอาศัยการสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงถึงขั้นมีการบาดเจ็บล้มตาย เพื่อให้แผนปล้นประเทศบรรลุผลจึงได้มีการเสนอให้ย้ายเวทีมาอยู่เขตธุรกิจที่ผู้คนจอแจแถวสยามสแควร์เพื่อสะดวกต่อการสร้างสถานกรณ์ได้เต็มที่ โดยให้จุฬาเจ้าของพี้นที่เป็นเจ้าภาพดูแลเรื่องความสะดวกเรียบร้อยร่วม กับธรรมศาสตร์ ในฐานะเจ้าภาพร่วม

กษัตริย์อวยพรปีใหม่ 31 ธ.ค. 2556
ศึกปล้นอำนาจประชาชนครั้งนี้คงไม่ง่ายเหมือนในสมัยที่เครือข่ายลุงสมชายได้โค่นล้มรัฐบาลรักสินแห่งพรรคไทยฮักไทย เพราะคราวนี้ ประชาชนไทยทั่วประเทศได้ประกาศพร้อมที่จะปกป้องอำนาจอธิปไตยของประชาชนให้ถึงที่สุดโดยพร้อมเพรียงกัน
……

ไม่มีความคิดเห็น: